Page 10 - หลักสูตรนิติศาสตรบัณฑิต
P. 10

10





                         คำว่าดอกผล สามารถแบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่ ดอกผลธรรมดาและดอกผลนิตินัย ซึ่ง
               ดอกผลธรรมดา หมายความว่า สิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติของทรัพย์ที่ได้มาจากตัวทรัพย์ โดยการมี


               หรือใช้ทรัพย์นั้นตามปกตินิยม และสามารถถือเอาได้เมื่อขาดจากทรัพย์นั้น เช่น ไข่ไก่ ผลไม้ ลูกวัว
                                                                                           ื่
               ขนแกะ น้ำนมแพะ  เป็นต้น ส่วนดอกผลนิตินัย หมายความว่า ทรัพย์หรือประโยชน์อย่างอนที่ได้มา

                                               ื่
               เป็นครั้งคราวแก่เจ้าของทรัพย์จากผู้อนเพอการที่ได้ใช้ทรัพย์นั้น สามารถคำนวณและถือเอาได้เป็น
                                                   ื่
               รายวันหรือตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ เช่น ดอกเบี้ย ค่าเช่า กำไร เงินปันผล เช่น นายศิลามีบ้านอยู่

                                          ั
               หลังหนึ่งได้เอาบ้านออกให้นายอคนีเช่า ค่าเช่าจึงเป็นดอกผลนิตินัยที่ผู้เป็นเจ้าของแม่ทรัพย์ย่อมเป็น
               เจ้าของดอกผล ดังนั้น ค่าเช่าบ้านจึงเป็นของนายศิลาซึ่งเป็นเจ้าของบ้านเช่า

                         ส่วนที่สอง กล่าวถึงทรัพยสิทธิ บรรพ 4 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บัญญัติไว้

               ตั้งแต่มาตรา 1298 ถึงมาตรา 1434 แบ่งเป็น 8 ลักษณะ ดังนี้ ลักษณะ 1 บทเบ็ดเสร็จทั่วไป มาตรา

               1298-1307 ลักษณะ 2 กรรมสิทธิ์ แบ่งเป็น 3 หมวด หมวด 1 การได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์ มาตรา 1308-

               1334 หมวด 2 แดนแห่งกรรมสิทธิ์และการใช้กรรมสิทธิ์ มาตรา 1335-1355 และหมวด 3 กรรมสิทธิ์

               รวม มาตรา 1356-1366 ลักษณะ 3 ครอบครอง มาตรา 1367-1386 ลักษณะ4 ภาระจำยอม มาตรา

                                                                             ื้
               1387-1401 ลักษณะ 5 อาศัย มาตรา 1402-1409 ลักษณะ 6 สิทธิเหนือพนดิน มาตรา 1410-1416
               ลักษณะ 7 สิทธิเก็บกิน มาตรา 1417-1428 และลักษณะ 8 ภาระติดพนในอสังหาริมทรัพย์ มาตรา
                                                                           ั
               1429-1434

                         การก่อตั้งทรัพยสิทธิทั้งหลายนั้นจะก่อตั้งขึ้นได้แต่ด้วยอาศัยอำนาจในประมวลกฎหมาย

                                                                                                 ั
               แพงและพาณิชย์หรือกฎหมายอน ซึ่งการได้มาโดยนิติกรรมซึ่งอสังหาริมทรัพย์หรือทรัพยสิทธิอน
                  ่
                                           ื่
               เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์นั้นไม่บริบูรณ์ เว้นแต่นิติกรรมจะได้ทำเป็นหนังสือและได้จดทะเบียนการ
               ได้มากับพนักงานเจ้าหน้าที่ แต่ต้องไม่มีบทบัญญัติในประมวลกฎหมายนี้หรือกฎหมายอนบัญญัติถึง
                                                                                         ื่
               การได้มาโดยนิติกรรมซึ่งอสังหาริมทรัพย์หรือทรัพยสิทธิอันเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ไว้เป็นการเฉพาะ

               เช่น การซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ แลกเปลี่ยนอสังหาริมทรัพย์หรือการให้อสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น การ

               ได้มาต้องทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ถ้าไม่ทำตามแบบย่อมตกเป็นโมฆะ

                                                                                       ื่
               ส่วนการได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์หรือทรัพยสิทธิอนเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์โดยทางอนนอกจากนิติ
                                                         ั
               กรรม ผู้ได้มาจะมีสิทธิในทรัพย์สินนั้นต้องจดทะเบียนการได้มาก่อน หากยังไม่มีการจดทะเบียนการ

               ได้มาจะเปลี่ยนแปลงทางทะเบียนไม่ได้ และไม่อาจยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้บุคคลภายนอกผู้ได้สิทธิมาโดย

               เสียค่าตอบแทนและโดยสุจริตและได้จดทะเบียนสิทธิโดยสุจริตแล้วได้ ส่วนกรณีมีบุคคลหลายคนเรียก
   5   6   7   8   9   10   11   12   13   14   15