Page 196 - PDS Play to learn
P. 196

196       โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน






                 การออกแรงกระท�าต่อวัตถุอาจท�าให้วัตถุเคลื่อนที่ได้ หรือวัตถุอาจไม่เคลื่อนที่ เนื่องจากมี
          แรงย่อยอื่นมาร่วมกระท�า ท�าให้เกิดการหักล้างของแรงในปริมาณเวกเตอร์ ดังนั้นวัตถุที่จะเคลื่อนที่ได้
          หรือไม่ได้ก็ขึ้นอยู่กับแรงลัพธ์ที่มากระท�าต่อวัตถุนั่นเอง เมื่อออกแรงกระท�าต่อวัตถุแล้ววัตถุไม่เคลื่อนที่

          เนื่องจากถูกหักล้างด้วยแรงอื่นที่ร่วมกระท�าต่อวัตถุนั้น แต่ไม่ว่าวัตถุนั้นจะเคลื่อนที่หรือไม่เคลื่อนที่ก็ตาม
          จะเกิดแรงลัพธ์ของวัตถุเสมอ


                 แรงเป็นปริมาณที่มีขนาดและทิศทาง แรงจึงเป็นปริมาณเวกเตอร์ การรวมแรงต้องรวมแบบ
          เวกเตอร์ ในการรวมแรงหลาย ๆ แรงที่กระท�าต่อวัตถุ ถ้าผลรวมของแรงที่ได้เป็นศูนย์แสดงว่า วัตถุนั้น

          อยู่ในสภาพสมดุล เมื่อปล่อยวัตถุ วัตถุนั้นจะตกลงสู่พื้นดิน แสดงว่ามีแรงกระท�าต่อวัตถุ ซึ่งแรงนั้นเกิด
          จากแรงดึงดูดที่โลกกระท�าต่อวัตถุ หรือที่เรียกว่า แรงโน้มถ่วงของโลก หรือน�้าหนักของวัตถุนั่นเอง
          แรงโน้มถ่วงนี้จะมีค่ามากหรือน้อยขึ้นอยู่กับมวลของวัตถุ ในการลากวัตถุให้เคลื่อนที่ไปบนพื้นผิวจะมี

          แรงต้านการเคลื่อนที่ เรียกแรงนี้ว่า แรงเสียดทาน ซึ่งแรงเสียดทานจะมีค่ามากหรือน้อยขึ้นอยู่กับลักษณะ
          ผิวสัมผัสระหว่างวัตถุทั้งสองและแรงที่วัตถุกดพื้น กิจกรรมบางอย่างต้องการให้ผิวสัมผัสมีแรงเสียดทาน

          แต่กิจกรรมบางอย่างต้องการลดแรงเสียดทานระหว่างผิวสัมผัส

                 เมื่อออกแรงแล้วท�าให้วัตถุเคลื่อนที่ไปตามแนวแรงนั้น เรียกว่า มีการท�างาน ค�านวณหาค่าของ

          งานที่ท�าได้จากผลคูณของแรงและระยะทางในแนวเดียวกันกับแรง และก�าหนดให้งานที่ท�าได้ในหนึ่ง
          หน่วยเวลา คือ ก�าลัง ในบางกรณี เมื่อออกแรงกระท�าต่อวัตถุอาจท�าให้วัตถุหมุน เรียกว่า เกิดโมเมนต์
          ของแรง ซึ่งเกิดเมื่อแรงที่กระท�ามีทิศตั้งฉากกับระยะทางจากจุดหมุนไปยังแนวแรง การหมุนนี้มีทั้งหมุน

          ในทิศตามเข็มนาฬิกา และทวนเข็มนาฬิกา โดยถ้าผลรวมของโมเมนต์ตามเข็มนาฬิกาเท่ากับผลรวมของ
          โมเมนต์ทวนเข็มนาฬิกา วัตถุจะอยู่ในสภาพสมดุล

                 เมื่อมีแรงกระท�าต่อวัตถุท�าให้วัตถุเคลื่อนที่สามารถวัดอัตราเร็วหรือขนาดของความเร็วของการ

          เคลื่อนที่ได้จากการใช้เครื่องเคาะสัญญาณเวลา วัตถุที่เคลื่อนที่โดยมีความเร็วเปลี่ยนไป เรียกว่า วัตถุ
          เคลื่อนที่โดยมีความเร่ง โดยความเร่งจะมีทิศเดียวกับทิศของแรงลัพธ์ที่กระท�าต่อวัตถุ การเคลื่อนที่ของ

          วัตถุนอกจากจะเคลื่อนที่ในแนวตรงแล้ว ยังมีการเคลื่อนที่แบบอื่นอีก เช่น การเคลื่อนที่แบบโพรเจคไทล์
          ซึ่งเป็นการเคลื่อนที่แนวโค้ง โดยได้ระยะทางในแนวราบและแนวดิ่งพร้อม ๆ กัน การเคลื่อนที่ในแนว
          วงกลม เป็นการเคลื่อนที่ที่มีแรงกระท�าต่อวัตถุในทิศเข้าสู่ศูนย์กลาง
   191   192   193   194   195   196   197   198   199   200   201