Page 697 - รวมคำวินิจฉัย ของประธานศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษ
P. 697

ี
                       จ�ำเลยท่ ๑ ให้กำรว่ำ ฟ้องโจทก์เคลือบคลุม โจทก์ใช้สิทธิฟ้องคดีโดยไม่สุจริต โจทก์
                                   ี
                                                                ี
                                                                                               �
                                                                                 ี
              ได้ใช้สิทธิขอรับช�ำระหน้ในคดีล้มละลำยแล้วกำรน�ำมูลหน้เดิมมำฟ้องเป็นคดีน้อีกจึงเป็นฟ้องซ้ำ
              โจทก์ไม่มีอ�ำนำจฟ้องและฟ้องโจทก์ขำดอำยุควำม ขอให้ยกฟ้อง
                       จ�ำเลยที่ ๒ ให้กำรว่ำ ฟ้องโจทก์ในหนี้ประธำนตำมหนังสือสัญญำกู้เงินขำดอำยุควำม
                                        ี
              และไม่มีสิทธิเรียกช�ำระค่ำเบ้ยประกันภัย คงมีสิทธิบังคับกับหน้อุปกรณ์ซ่งเป็นทรัพย์จ�ำนอง
                                                                                ึ
                                                                       ี
              ตำมประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณชย์ มำตรำ ๑๙๓/๒๗ และมำตรำ ๗๔๕ แต่จะบงคบ
                                               ิ
                                                                                            ั
                                                                                               ั
              ช�ำระดอกเบี้ยย้อนหลังได้ไม่เกิน ๕ ปี
                                               ี
                       ระหว่ำงพิจำรณำ จ�ำเลยท่ ๑ ย่นค�ำร้องขอให้ช้ขำดว่ำคดีอยู่ในเขตอ�ำนำจของ
                                                                   ี
                                                     ื
              ศำลล้มละลำยกลำงหรือไม่ ศำลแพ่งกรุงเทพใต้เห็นว่ำ กรณีมีปัญหำว่ำคดีอยู่ในอ�ำนำจพิจำรณำ
              พิพำกษำของศำลล้มละลำยหรือไม่ จึงเสนอปัญหำดังกล่ำวให้ประธำนศำลอุทธรณ์คดีช�ำนัญพิเศษ

                                               ั
              เป็นผู้วินิจฉัย ตำมพระรำชบัญญัติจัดต้งศำลล้มละลำยและวิธีพิจำรณำคดีล้มละลำย พ.ศ. ๒๕๔๒
              มำตรำ ๙

                       วินิจฉัยว่ำ เมื่อข้อเท็จจริงตำมค�ำฟ้องและค�ำให้กำรฟังเป็นยุติว่ำ จ�ำเลยที่ ๑ ท�ำสัญญำ

                                                                            ี
                                                                               ื
              กู้เงินโจทก์ โดยน�ำทรัพย์สินมำจดทะเบียนจ�ำนองเป็นประกันกำรช�ำระหน้ เม่อศำลล้มละลำยกลำง
              มีค�ำส่งพิทักษ์ทรัพย์ของจ�ำเลยท่ ๑ เด็ดขำด โจทก์ได้ย่นค�ำขอรับช�ำระหน้ต่อจ�ำเลยท่ ๒ ตำม
                                                                                         ี
                   ั
                                          ี
                                                                               ี
                                                               ื
              พระรำชบัญญัติล้มละลำย พ.ศ. ๒๔๘๓ มำตรำ ๙๕ แล้ว จ�ำเลยที่ ๒ มีค�ำสั่งให้งดด�ำเนินกำร
              แต่ไม่ตัดสิทธิโจทก์ท่จะด�ำเนินกำรกับทรัพย์หลักประกันตำมกฎหมำยอ่นต่อไป โจทก์จึงฟ้อง
                                ี
                                                                             ื
              เป็นคดีน้ น้น ข้ออ้ำงท่อำศัยเป็นหลักแห่งข้อหำตำมค�ำฟ้องของโจทก์เป็นกำรใช้สิทธิตำม
                         ั
                                   ี
                      ี
              บทบัญญัติว่ำด้วยควำมรับผิดของบุคคลในทำงแพ่งในฐำนะผู้รับจ�ำนองตำมประมวลกฎหมำยแพ่ง
              และพำณิชย์ มำตรำ ๗๒๘ ประกอบพระรำชบัญญัติล้มละลำย พ.ศ. ๒๔๘๓ มำตรำ ๑๑๐ วรรคสำม
              กรณีจึงมิใช่คดีแพ่งท่เก่ยวพันกันกับคดีล้มละลำยซ่งอยู่ในอ�ำนำจพิจำรณำพิพำกษำของ
                                    ี
                                  ี
                                                              ึ
                                                                               ิ
                                                                                        ี
                                                         ั
                                                      ั
              ศำลล้มละลำยตำมมำตรำ ๗ แห่งพระรำชบัญญติจดตงศำลล้มละลำยและวิธพจำรณำคดล้มละลำย
                                                                              ี
                                                           ั
                                                           ้
              พ.ศ. ๒๕๔๒
                       วินิจฉัยว่ำ คดีนี้ไม่อยู่ในอ�ำนำจพิจำรณำพิพำกษำของศำลล้มละลำย










                                                     669
   692   693   694   695   696   697   698   699   700   701   702