Page 692 - รวมคำวินิจฉัย ของประธานศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษ
P. 692

พร้อมสิ่งปลูกสร้ำงดังกล่ำวก่อนโจทก์และเจ้ำหนี้อื่น หำกโจทก์สละสิทธิหรือเพิกเฉยไม่บังคับคดี

              ขอให้มีค�ำสั่งให้ผู้ร้องสวมสิทธิเป็นโจทก์แทน

                       จ�ำเลยที่ ๒ ยื่นค�ำคัดค้ำนว่ำ โจทก์ถอนฟ้องจ�ำเลยที่ ๒ และคดีถึงที่สุดแล้ว จ�ำเลยที่ ๒
              ไม่เกี่ยวข้องกับกำรบังคับคดี เมื่อผู้ร้องมิได้ฟ้องบังคับจ�ำนองเอำแก่จ�ำเลยที่ ๒ จึงไม่มีสิทธิได้รับ

                                    ี
                                                      ี
                                                                          ี
              ช�ำระหน้ในทรัพย์จ�ำนองท่เป็นส่วนของจ�ำเลยท่ ๒ ประกอบกับจ�ำเลยท่ ๑ ถูกศำลล้มละลำยกลำง
                     ี
                                                                                       ี
                                                                    ี
              มีค�ำส่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขำด ผู้ร้องต้องไปย่นค�ำร้องขอเฉล่ยในส่วนของจ�ำเลยท่ ๑ ในคด  ี
                                                      ื
                   ั
              ล้มละลำย ขอให้ยกค�ำร้อง
                       ศำลจังหวัดเชียงใหม่มีค�ำส่งให้ส่งส�ำเนำค�ำร้องให้เจ้ำพนักงำนพิทักษ์ทรัพย์ของ
                                               ั
              จ�ำเลยที่ ๑ ว่ำประสงค์จะเข้ำมำในคดีหรือไม่
                       เจ้ำพนักงำนพิทักษ์ทรัพย์ของจ�ำเลยที่ ๑ ยื่นค�ำคัดค้ำนว่ำ ศำลล้มละลำยกลำงมีค�ำสั่ง

                                        ี
                                             ั
              พิทักษ์ทรัพย์เด็ดขำดจ�ำเลยท่ ๑ ต้งแต่วันท่ ๑ กรกฎำคม ๒๕๕๗ และพิพำกษำให้ล้มละลำย
                                                    ี
                ื
                                                                                               ื
              เม่อวันท่ ๒๑ เมษำยน ๒๕๕๘ ธนำคำรไทยพำณิชย์ จ�ำกัด (มหำชน) เจ้ำหน้รำยท่ ๓ ได้ย่น
                                                                                        ี
                     ี
                                                                                   ี
                             ี
                                                                       ี
              ค�ำขอรับช�ำระหน้จำกกองทรัพย์สินของจ�ำเลยท่ ๑ ในฐำนะเจ้ำหน้มีประกันตำมพระรำชบัญญัต ิ
                                                       ี
              ล้มละลำย พ.ศ. ๒๔๘๓ มำตรำ ๙๖ (๓) ขณะน้อยู่ระหว่ำงเจ้ำพนักงำนพิทักษ์ทรัพย์สอบสวน
                                                         ี
                              ี
                                   ี
                                         ี
                                                           ี
              ค�ำขอรับช�ำระหน้รำยน้ กำรท่ผู้ร้องในฐำนะเจ้ำหน้มีประกันจะมีสิทธิบังคับคดีเอำจำกทรัพย์
                                                 ั
              หลักประกันได้เพียงใดย่อมเป็นไปตำมข้นตอนของกฎหมำยในคดีล้มละลำย โดยผู้ร้องต้องขอ
                         ั
              สวมสิทธิในช้นเจ้ำพนักงำนพิทักษ์ทรัพย์พร้อมส่งเอกสำรประกอบมูลหน้และทรัพย์หลักประกัน
                                                                             ี
                                                            ี
                ื
                                                    ี
              เพ่อเจ้ำพนักงำนพิทักษ์ทรัพย์จะได้สอบสวนเก่ยวกับหน้สินและท�ำควำมเห็นเสนอศำลล้มละลำยกลำง
              ว่ำเห็นควรให้ผู้ร้องได้รับช�ำระหน้จำกกำรบังคับคดีขำยทอดตลำดทรัพย์หลักประกันเพียงใด
                                            ี
                                                                                      ู
                                                                                 ี
                                                                 ี
              ผู้ร้องจงไม่มสทธยนคำร้องขอรบชำระหนบรมสทธในคดน ขอให้จำหน่ำยคดของผ้ร้องในส่วน
                                                                        �
                                                                 ้
                                                        ิ
                                                          ิ
                                                               ี
                                                     ิ
                         ี
                          ิ
                                         ั
                    ึ
                              ื
                             ิ
                                 �
                              ่
                                            �
                                                  ้
                                                  ี
                                                    ุ
              ของจ�ำเลยที่ ๑ ออกจำกสำรบบควำม
                       ระหว่ำงพิจำรณำ ศำลจังหวัดเชียงใหม่เห็นว่ำ กรณีมีปัญหำว่ำคดีอยู่ในอ�ำนำจพิจำรณำ
              พิพำกษำของศำลล้มละลำยหรือไม่ จึงเสนอปัญหำดังกล่ำวให้ประธำนศำลอุทธรณ์คดีช�ำนัญพิเศษ
                                            ั
              วินิจฉัย ตำมพระรำชบัญญัติจัดต้งศำลล้มละลำยและวิธีพิจำรณำคดีล้มละลำย พ.ศ. ๒๕๔๒
              มำตรำ ๙
                       วินิจฉัยว่ำ คดีน้ผู้ร้องบรรยำยค�ำร้องว่ำ จ�ำเลยท่ ๑ และท่ ๒ กู้เงินจำกธนำคำรไทย
                                     ี
                                                                         ี
                                                                 ี
              พำณิชย์ จ�ำกัด (มหำชน) โดยจ�ำเลยที่ ๑ และที่ ๒ จ�ำนองที่ดินโฉนดเลขที่ ๓๓๖๖๔, ๔๐๘๕๐
                                                                  ิ
                                                                                               ื
              ต�ำบลหนองควำย อ�ำเภอหำงดง จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมส่งปลูกสร้ำง เป็นประกัน ต่อมำเม่อ
                                                     664
   687   688   689   690   691   692   693   694   695   696   697