Page 73 - physics6
P. 73
60 บทที่ 19 | ฟิสิกส์อะตอม ฟิสิกส์ เล่ม 6 ฟิสิกส์ เล่ม 6 บทที่ 19 | ฟิสิกส์อะตอม 61
ความรู้เพิ่มเติมสำาหรับครู
ประวัติการค้นพบรังสีเอกซ์
ในปี พ.ศ. 2438 วินเฮล์ม คอนราด เรินต์เกน (Wilhelm Konrad Roentgen) นักฟิสิกส์ชาว
เยอรมันได้พบรังสีชนิดหนึ่งโดยบังเอิญ ขณะศึกษาการนำากระแสไฟฟ้าผ่านแก๊ส (gaseous discharge)
ในหลอดรังสีแคโทด โดยขณะที่เขาใช้กระดาษดำาคลุมหลอดรังสีแคโทด ในห้องทดลองที่มืดสนิท เขา
สังเกตว่าแร่แบเรียมแพลทิโนไซยาไนด์ที่วางอยู่ห่างจากหลอดรังสีแคโทดประมาณหนึ่งเมตร เกิด
การเรืองแสงขึ้น ซึ่งขณะนั้นนักวิทยาศาสตร์ทราบว่าแร่นี้จะเรืองแสงได้เมื่อรับรังสีอัลตราไวโอเลต
เท่านั้น แต่ขณะทดลองไม่มีแหล่งกำาเนิดรังสีอัลตราไวโอเลต และรังสีแคโทดก็ไม่สามารถเดินทาง
จากหลอดสุญญากาศไปยังก้อนแร่ได้ เพราะรังสีแคโทดทะลุผ่านอากาศได้ไกลเพียง 2 – 3 เซนติเมตร
เท่านั้น
เรินต์เกนจึงสรุปว่า สิ่งที่ทำาให้ก้อนแร่ดังกล่าวเรืองแสงจะต้องเป็นรังสีบางอย่างที่ยังไม่มีผู้ใด
รู้จักมาก่อน และรังสีนี้ต้องมาจากหลอดรังสีแคโทด และมีอำานาจทะลุผ่านสูงจนสามารถผ่านกระดาษ
ดำาไปยังก้อนแร่ได้ เรินต์เกน เรียกรังสีนี้ว่า รังสีเอกซ์ (X-rays) การทดลองในเวลาต่อมาทำาให้
ทราบว่า รังสีเอกซ์เป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีความยาวคลื่นสั้นมาก สามารถทะลุผ่านวัตถุที่ไม่หนา
จนเกินไปและมีความหนาแน่นน้อยได้ เช่น กระดาษ ไม้ เนื้อเยื่อของคนและสัตว์
การผลิตรังสีเอกซ์์
ในการผลิตรังสีเอกซ์ ปกติใช้ลำาอิเล็กตรอนที่มีพลังงานสูงพุ่งชนอะตอมของโลหะหนักที่เป็น
เป้า ดังรูป โดยขั้วไฟฟ้า A ถูกทำาให้ร้อนด้วยกระแสไฟฟ้าจากความต่างศักย์ V' อิเล็กตรอนที่หลุด
จากขั้วไฟฟ้า A จะถูกเร่งด้วยความต่างศักย์ V เข้าชนเป้าโลหะหนัก B ทำาให้เกิดรังสีเอกซ์
0
อิเล็กตรอน
ขั้วไฟฟ�า A เป�าโลหะหนัก B
V′ รังสีเอกซ�
แหล�งกำเนิดไฟฟ�า
V
ที่มีความต�างศักย�สูง 0
รูป หลอดรังสีเอกซ์
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

