Page 227 - ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์2564
P. 227
- ๒๒๗ - ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
มำตรำ ๑๔๐๗ ผู้ให้อำศัยไม่จ ำต้องบ ำรุงรักษำทรัพย์สินให้อยู่ในควำมซ่อมแซมอันดี
ี
ี
ี
ผู้อำศัยจะเรียกให้ชดใช้ค่ำใช้จ่ำย ซึ่งได้ออกไปในกำรท ำให้ทรัพย์สินดีขึ้นหำได้ไม่
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
มำตรำ ๑๔๐๘ เมื่อสิทธิอำศัยสิ้นลง ผู้อำศัยต้องส่งทรัพย์สินคืนแก่ผู้ให้อำศัย
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
มำตรำ ๑๔๐๙ ท่ำนให้น ำบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมำยนี้ว่ำด้วยหน้ำที่และควำม
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
รับผิดของผู้เช่ำอนกล่ำวไว้ในมำตรำ ๕๕๒ ถึง ๕๕๕ มำตรำ ๕๕๘, ๕๖๒ และ ๕๖๓ มำใช้บังคับโดย
ั
อนุโลม
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
ี ลักษณะ ๖
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
สิทธิเหนือพื้นดิน
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ื้
มำตรำ ๑๔๑๐ เจ้ำของที่ดินอำจก่อให้เกิดสิทธิเหนือพนดินเป็นคุณแก่บุคคลอน
ื่
โดยให้บุคคลนั้นมีสิทธิเป็นเจ้ำของโรงเรือน สิ่งปลูกสร้ำง หรือสิ่งเพำะปลูก บนดินหรือใต้ดินนั้น
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
มำตรำ ๑๔๑๑ ถ้ำมิได้ก ำหนดไว้เป็นอย่ำงอนในนิติกรรมอนก่อให้เกิดสิทธิเหนือ
ื่
ั
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
พื้นดินไซร้ ท่ำนว่ำสิทธินั้นอำจโอนได้และรับมรดกกันได้
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
ื้
มำตรำ ๑๔๑๒ สิทธิเหนือพนดินนั้นจะก่อให้เกิดโดยมีก ำหนดเวลำ หรือตลอดชีวิต
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
เจ้ำของที่ดิน หรือตลอดชีวิตผู้ทรงสิทธิเหนือพื้นดินนั้นก็ได้ ี
ี
ถ้ำก่อให้เกิดสิทธิพนดินโดยมีก ำหนดเวลำไซร้ ท่ำนให้น ำบทบัญญัติมำตรำ ๑๔๐๓
ื้
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
วรรค ๓ มำใช้บังคับโดยอนุโลม
ี
ี
ี
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
มำตรำ ๑๔๑๓ ถ้ำสิทธิเหนือพนดินนั้นไม่มีกำหนดเวลำไซร้ ท่ำนว่ำคู่กรณีฝ่ำยใดจะ
ื้
บอกเลิกเสียในเวลำใดก็ได้ แต่ต้องบอกล่วงหน้ำแก่อกฝ่ำยหนึ่งตำมสมควร ถ้ำมีค่ำเช่ำซึ่งจ ำต้องให้แก่
ี
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
กันไซร้ ท่ำนว่ำต้องบอกล่วงหน้ำปีหนึ่ง หรือให้ค่ำเช่ำปีหนึ่ง
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ั
มำตรำ ๑๔๑๔ ถ้ำผู้ทรงสิทธิเหนือพนดินละเลยไม่ปฏิบัติตำมเงื่อนไขอนเป็น
ื้
ี่ำซึ่งจะต้องให้แก่กัน แต่ผู้ทรงสิทธิ
สำระส ำคัญซึ่งระบุไว้ในนิติกรรมก่อตั้งสิทธินั้นก็ดี หรือถ้ำมีค่ำเช
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ื้
ี
เหนือพนดินละเลยไม่ช ำระถึงสองปีติด ๆ กันก็ดี ท่ำนว่ำคู่กรณีอกฝ่ำยหนึ่งจะบอกเลิกสิทธิเหนือ
พื้นดินก็ได้ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ื้
มำตรำ ๑๔๑๕ สิทธิเหนือพนดินนั้นไม่สิ้นไปโดยเหตุที่โรงเรือน สิ่งปลูกสร้ำง หรือ
ี
ี
ี
สิ่งเพำะปลูกสลำยไป แม้กำรสลำยนั้นจะเป็นเพรำะเหตุสุดวิสัย
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี

