Page 228 - ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์2564
P. 228
- ๒๒๘ - ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๔๑๖ เมื่อสิทธิเหนือพนดินสิ้นไป ผู้ทรงสิทธิจะรื้อถอนโรงเรือน สิ่งปลูก
ื้
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
สร้ำง สิ่งเพำะปลูกของตนไปก็ได้ แต่ต้องท ำให้ที่ดินเป็นตำมเดิม
ี
ี
ี
แต่ถ้ำเจ้ำของที่ดินจะไม่ยอมให้รื้อถอนไป และบอกเจตนำจะซื้อตำมรำคำท้องตลำด
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ไซร้ ท่ำนว่ำผู้ทรงสิทธิเหนือพื้นดินจะไม่ยอมขำยไม่ได้ เว้นแต่จะมีเหตุอันสมควร ี
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
ลักษณะ ๗
สิทธิเก็บกิน
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
มำตรำ ๑๔๑๗ อสังหำริมทรัพย์อำจต้องตกอยู่ในบังคับสิทธิเก็บกินอนเป็นเหตุให้ผู้
ั
ทรงสิทธินั้นมีสิทธิครอบครอง ใช้ และถือเอำซึ่งประโยชน์แห่งทรัพย์สินนั้น ี
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ผู้ทรงสิทธิเก็บกินมีอ ำนำจจัดกำรทรัพย์สิน
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ผู้ทรงสิทธิเก็บกินในป่ำไม้ เหมืองแร่ หรือที่ขุดหิน มีสิทธิท ำกำรแสวงประโยชน์จำก
ี
ี
ี
ป่ำไม้ เหมืองแร่ หรือที่ขุดหินนั้น
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
มำตรำ ๑๔๑๘ สิทธิเก็บกินนั้น จะก่อให้เกิดโดยมีก ำหนดเวลำ หรือตลอดชีวิตแห่งผู้
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
ทรงสิทธิก็ได้
ถ้ำไม่มีก ำหนดเวลำ ท่ำนให้สันนิษฐำนไว้ก่อนว่ำสิทธิเก็บกินมีอยู่ตลอดชีวิตผู้ทรง
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
สิทธิ
ถ้ำมีก ำหนดเวลำ ท่ำนให้น ำบทบัญญัติมำตรำ
ี ๑๔๐๓ วรรค ๓ มำใช้บังคับโดย
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
อนุโลม
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ถ้ำผู้ทรงสิทธิเก็บกินถึงแก่ควำมตำย ท่ำนว่ำสิทธินั้นย่อมสิ้นไปเสมอ
ี
ี
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
มำตรำ ๑๔๑๙ ถ้ำทรัพย์สินสลำยไปโดยไม่ได้ค่ำทดแทนไซร้ ท่ำนว่ำเจ้ำของไม่
ี
ี
ี
จ ำต้องท ำให้คืนดี แต่ถ้ำเจ้ำของท ำให้ทรัพย์สินคืนดีขึ้นเพียงใด ท่ำนว่ำสิทธิเก็บกินก็กลับมีขึ้นเพียงนั้น
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ถ้ำได้ค่ำทดแทนไซร้ ท่ำนว่ำเจ้ำของหรือผู้ทรงสิทธิเก็บกินต้องท ำให้ทรัพย์สินคืนดี
ี
ี
เพยงที่สำมำรถท ำได้ตำมจ ำนวนเงินค่ำทดแทนที่ได้รับ และสิทธิเก็บกินกลับมีขึ้นเพยงที่ทรัพย์สิน
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
กลับคืนดี แต่ถ้ำพนวิสัยที่จะท ำให้กลับคืนดีได้ สิทธิเก็บกินก็เป็นอันสิ้นไป และค่ำทดแทนนั้นต้องแบ่ง
้
กันระหว่ำงเจ้ำของทรัพย์สิน และผู้ทรงสิทธิเก็บกินตำมส่วนแห่งควำมเสียหำยของตน ี
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
วิธีนี้ให้ใช้บังคับโดยอนุโลมถึงกรณีซึ่งทรัพย์สินถูกบังคับซื้อ และกรณีซึ่งทรัพย์สิน
สลำยไปแต่บำงส่วน หรือกำรท ำให้คืนดีนั้นพ้นวิสัยในบำงส่วน
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
มำตรำ ๑๔๒๐ เมื่อสิทธิเก็บกินสิ้นลง ผู้ทรงสิทธิต้องส่งทรัพย์สินคืนแก่เจ้ำของ
ี
ี
ถ้ำทรัพย์สินสลำยไป หรือเสื่อมรำคำลง ผู้ทรงสิทธิเก็บกินต้องรับผิด เว้นแต่จะพิสูจน์
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ได้ว่ำควำมเสียหำยนั้นมิได้เกิดขึ้นเพรำะควำมผิดของตน
ี
ี
ี
ถ้ำผู้ทรงสิทธิเก็บกินใช้ทรัพย์สินสิ้นเปลืองไปโดยมิชอบ ท่ำนว่ำต้องท ำให้มีมำแทน
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ถ้ำทรัพย์สินเสื่อมรำคำเพรำะกำรใช้ตำมควรไซร้ ท่ำนว่ำผู้ทรงสิทธิเก็บกินไม่จ ำต้อง
ให้ค่ำทดแทน
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี

