Page 229 - ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์2564
P. 229
- ๒๒๙ - ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
มำตรำ ๑๔๒๑ ในกำรใช้สิทธิเก็บกินนั้น ผู้ทรงสิทธิต้องรักษำทรัพย์สินเสมอกับที่
ี
ี
ี
วิญญูชนพึงรักษำทรัพย์สินของตนเอง
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
มำตรำ ๑๔๒๒ ถ้ำมิได้ก ำหนดไว้เป็นอย่ำงอนในนิติกรรมอนก่อให้เกิดสิทธิเก็บกิน
ั
ื่
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
ไซร้ ท่ำนว่ำผู้ทรงสิทธินั้นจะโอนกำรใช้สิทธิของตนให้บุคคลภำยนอกก็ได้ ในกรณีเช่นนั้นเจ้ำของ
ทรัพย์สินอำจฟ้องร้องผู้รับโอนโดยตรง ี ี
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
มำตรำ ๑๔๒๓ เจ้ำของทรัพย์สินจะคัดค้ำนมิให้ใช้ทรัพย์สินในทำงอนมิชอบด้วย
ั
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
กฎหมำย หรือมิสมควรก็ได้
ิ
ถ้ำเจ้ำของพสูจน์ได้ว่ำสิทธิของตนตกอยู่ในภยันตรำย ท่ำนว่ำจะเรียกให้
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ผู้ทรงสิทธิ
ี
ี
เก็บกินหำประกันให้ก็ได้ เว้นแต่ในกรณีซึ่งผู้ให้ทรัพย์สินสงวนสิทธิเก็บกินในทรัพย์สินนั้นไว้เพื่อตนเอง
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ถ้ำผู้ทรงสิทธิเก็บกินละเลยไม่หำประกันมำให้ภำยในเวลำอนควรซึ่งก ำหนดให้เพอ
ื่
ั
ี
ี
ี
กำรนั้น หรือถ้ำผู้ทรงสิทธิเก็บกินมิน ำพำต่อค ำคัดค้ำนแห่งเจ้ำของ ยังคงใช้ทรัพย์สินนั้นในทำงอนมิ
ั
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ชอบด้วยกฎหมำย หรือมิสมควรไซร้ ท่ำนว่ำศำลจะตั้งผู้รักษำทรัพย์เพอจัดกำรทรัพย์สินแทนผู้ทรง
ื่
สิทธิเก็บกินก็ได้ แต่เมื่อหำประกันมำให้แล้ว ศำลจะถอนผู้รักษำทรัพย์ที่ตั้งขึ้นไว้นั้นก็ได้
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
มำตรำ ๑๔๒๔ ผู้ทรงสิทธิเก็บกินจ ำต้องสงวนภำวะแห่งทรัพย์สินมิให้เปลี่ยนไปใน
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
สำระส ำคัญ กับต้องบ ำรุงรักษำปกติและซ่อมแซมเล็กน้อยด้วย
ีต้องท ำเพื่อรักษำทรัพย์สินไซร้ ท่ำน
ั
ถ้ำจ ำเป็นต้องซ่อมแซมใหญ่ หรือมีกำรส ำคัญอน
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ว่ำผู้ทรงสิทธิเก็บกินต้องแจ้งแก่เจ้ำของทรัพย์สินโดยพลัน และต้องยอมให้จัดท ำกำรนั้น ๆ ไป
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ถ้ำเจ้ำของทรัพย์สินละเลยเสีย ท่ำนว่ำผู้ทรงสิทธิเก็บกินจะจัดท ำกำรนั้นไปโดยให้เจ้ำของทรัพย์สิน
ี
ี
ออกค่ำใช้จ่ำยก็ได้
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
ื่
มำตรำ ๑๔๒๕ ค่ำใช้จ่ำยอันเป็นกำรจรนั้น ท่ำนว่ำเจ้ำของต้องเป็นผู้ออก แต่เพอจะ
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ออกค่ำใช้จ่ำยเช่นว่ำนี้ หรือค่ำใช้จ่ำยตำมควำมในมำตรำก่อน เจ้ำของจะจ ำหน่ำยทรัพย์สินบำงส่วนก็
่
ได้ เว้นแต่ผู้ทรงสิทธิเก็บกินจะเต็มใจทดรองเงินตำมที่จ ำเป็นโดยไมคิดดอกเบี้ย
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
มำตรำ ๑๔๒๖ ในระหว่ำงที่สิทธิเก็บกินยังมีอยู่ ผู้ทรงสิทธิต้องออกค่ำใช้จ่ำยในกำร
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
จัดกำรทรัพย์สินตลอดจนเสียภำษีอำกร กับทั้งต้องใช้ดอกเบี้ยหนี้สินซึ่งติดพันทรัพย์สินนั้น
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
มำตรำ ๑๔๒๗ ถ้ำเจ้ำของทรัพย์สิน ต้องกำร ผู้ทรงสิทธิเก็บกินจ ำต้องเอำทรัพย์สิน
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ประกันวินำศภัยเพอประโยชน์แกเจ้ำของทรัพย์สิน และถ้ำทรัพย์สินนั้นได้เอำประกันภัยไว้แล้ว ผู้ทรง
ื่
่
ี
ี
สิทธิเก็บกินต้องต่อสัญญำประกันนั้นเมื่อถึงครำวต่อ
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ผู้ทรงสิทธิเก็บกินต้องเสียเบี้ยประกันระหว่ำงที่สิทธิของตนยังมีอยู่
ี
ี
ี
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ั
มำตรำ ๑๔๒๘ คดีอนเกี่ยวกับสิทธิเก็บกินในระหว่ำงเจ้ำของทรัพย์สินกับผู้ทรงสิทธิ
้
เก็บกิน หรือผู้รับโอนนั้น ท่ำนห้ำมมิให้ฟองเมื่อเกินปีหนึ่งนับแต่วันสิทธิเก็บกินสุดสิ้นลง แต่ในคดีที่
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี

