Page 50 - ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์2564
P. 50
- ๕๐ - ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
อนึ่งทรัพย์สินซึ่งยึดหน่วงไว้นั้น ถ้ำมิได้รับควำมยินยอมของลูกหนี้ ท่ำนว่ำผู้ทรงสิทธิ
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ยึดหน่วงหำอำจจะใช้สอยหรือให้เช่ำ หรือเอำไปท ำเป็นหลักประกันได้ไม่ แต่ควำมที่กล่ำวนี้ท่ำนมิให้ใช้
ี
ี
ี
บังคับไปถึงกำรใช้สอยเช่นที่จ ำเป็นเพื่อจะรักษำทรัพย์สินนั้นเอง
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ถ้ำผู้ทรงสิทธิยึดหน่วงกระท ำกำรฝ่ำฝืนบทบัญญัติใดที่กล่ำวมำนี้ ท่ำนว่ำลูกหนี้จะ
ี
ี
เรียกร้องให้ระงับสิทธินั้นเสียก็ได้
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
มำตรำ ๒๔๗ ถ้ำผู้ทรงสิทธิยึดหน่วงต้องเสียค่ำใช้จ่ำยไปตำมที่จ ำเป็นเกี่ยวด้วย
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ทรัพย์สินอันตนยึดหน่วงไว้นั้นเพียงใด จะเรียกให้เจ้ำทรัพย์ชดใช้ให้ก็ได้
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
มำตรำ ๒๔๘ ภำยในบังคับแห่งบทบัญญัติมำตรำ ๑๙๓/๒๗ กำรใช้สิทธิยึดหน่วงหำ
ท ำให้อำยุควำมแห่งหนี้สะดุดหยุดลงไม่ ี ี
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ิ่
[เลขมำตรำ ๑๙๓/๒๗ แก้ไขเพมเติมโดยมำตรำ ๑๕ แห่งพระรำชบัญญัติให้ใช้
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
บทบัญญัติบรรพ ๑ แห่งประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์ที่ได้ตรวจช ำระใหม่ พ.ศ. ๒๕๓๕]
ี
ี
ี
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
มำตรำ ๒๔๙ ลูกหนี้จะเรียกร้องให้ระงับสิทธิยึดหน่วงด้วยหำประกันให้ไว้ตำม
สมควรก็ได้
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
มำตรำ ๒๕๐ กำรครองทรัพย์สินสูญสิ้นไป สิทธิยึดหน่วงก็เป็นอนระงับสิ้นไปด้วย
ั
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ั
แต่ควำมที่กล่ำวนี้ท่ำนมิให้ใช้บังคับแก่กรณีที่ทรัพย์สินอนยึดหน่วงไว้นั้นได้ให้เช่ำไปหรือจ ำน ำไว้ด้วย
ควำมยินยอมของลูกหนี้
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ส่วนที่ ๖
ี
ี
บุริมสิทธิ
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
มำตรำ ๒๕๑ ผู้ทรงบุริมสิทธิย่อมทรงไว้ซึ่งสิทธิเหนือทรัพย์สินของลูกหนี้ในกำรที่จะ
ั
ื่
ได้รับช ำระหนี้อนค้ำงช ำระแก่ตน จำกทรัพย์สินนั้นก่อนเจ้ำหนี้อน ๆ โดยนัยดังบัญญัติไว้ในประมวล
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
กฎหมำยนี้ หรือบทกฎหมำยอื่น
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
มำตรำ ๒๕๒ บทบัญญัติแห่งมำตรำ ๒๔๔ นั้น ท่ำนให้ใช้บังคับตลอดถึงบุริมสิทธิ
ด้วยตำมแต่กรณี
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
๑. บุริมสิทธิสำมัญ
ี
ี
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
มำตรำ ๒๕๓ ถ้ำหนี้มีอยู่เป็นคุณแก่บุคคลผู้ใดในมูลอย่ำงหนึ่งอย่ำงใดดังจะกล่ำว
ี
๔
ี
ี
ต่อไปนี้ บุคคลผู้นั้นย่อมมีบุริมสิทธิเหนือทรัพย์สินทั้งหมดของลูกหนี้ คือ
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี ี
๔ มำตรำ ๒๕๓ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและ
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
พำณิชย์ (ฉบับที่ ๑๓) พ.ศ. ๒๕๔๑

