Page 202 - E-book การประชุมวิชาการครั้งที่ 36
P. 202
(27)
7. ภาวะตกเลือดหลังคลอด
เนื่องจากเนื้องอกมดลูกจะขัดขวางหรือลดการบีบตัวของกล้ามเนื้อมดลูกทั้งในช่วงระหว่างคลอดและ
หลังคลอด โดยจะพบได้ในกลุ่ม intramural ร้อยละ 8.6 subserous ร้อยละ 5.6 และ submucosal ร้อยละ 4.7
8. ความผิดปกติของทารกในครรภ์
อาจทำให้เกิดความผิดปกติของแขนขา รูปทรงของศีรษะ หรือคอผิดรูปตั้งแต่กำเนิดในสตรีตั้งครรภ์ท ี่
พบเนื้องอกชนิด submucosal ที่มีขนาดใหญ่
9. ภาวะรกเกาะต่ำ
มีบางการศึกษาพบว่าสตรีที่มีเนื้องอกมดลูกจะมีโอกาสพบรกเกาะต่ำมากขึ้นเล็กน้อย แต่ยังต้อง
คำนึงถึงปัจจัยร่วมอื่น ๆ ด้วย เช่น การผ่าตัดคลอด และการผ่าตัดเนื้องอกมดลกมาก่อน
ู
10. การเจริญเติบโตของทารกในครรภ์และ low Apgar score
(28)
หากเนื้องอกขนาดใหญ่มากกว่า 200 มิลลิลิตร จะมีความสัมพันธ์กับทารกตัวเล็ก
11. ภาวะครรภ์เป็นพิษ
(29)
สมมุติฐานที่อธิบายสาเหตุของครรภ์เป็นพิษกับเนื้องอกมดลูก อาจเป็นผลจากการพัฒนาของรกท ี่
ผิดปกติไปในช่วงแรกทำให้รกเกิดภาวะขาดเลือดนำไปสู่พยาธิสภาพของครรภ์เป็นพิษได้ ซึ่งมีการศึกษาพบว่าสตรีท ี่
มีเนื้องอกหลายก้อนมีแนวโน้มทจะเกิดภาวะครรภ์เป็นพิษมากกว่าผที่มีเนื้องอกเพียงก้อนเดียว (ร้อยละ 45 เทยบ
ี่
ู้
ี
กับ 13)
สรุป (Conclusions)
่
เนื้องอกในมดลูกเป็นภาวะที่พบได้บ่อยในช่วงตั้งครรภ์ ซึ่งอุบัติการณ์จะมากขึ้นตามอายุ โดยอาการทีพบ
ได้บ่อย ได้แก่ อาการปวดจากการขาดเลือดหรือบิดขั้ว เลือดออกผิดปกติทางช่องคลอดและอาการจากการกดเบียด
ี่
เช่น ปัสสาวะบ่อย เป็นต้น ในช่วงที่ตั้งครรภ์นั้น สตรีที่มีเนื้องอกร้อยละ 70-80 จะมีขนาดใหญ่ขึ้นหรือคงท
ี่
ส่วนหลังคลอดร้อยละ 90 จะมีขนาดเล็กลง ซึ่งเนื้องอกอาจเป็นสาเหตุหลักททำให้มีภาวะมีบุตรยากและเมื่อมีการ
ตั้งครรภ์ก็อาจมีภาวะแทรกซ้อนเพียงเล็กน้อยจนไปถึงแท้งบุตร คลอดก่อนกำหนด รกเกาะต่ำ ทารกผิดท่า ส่งผลให้
ต้องผ่าตัดคลอดมากขึ้นจนไปถึงตกเลือดหลังคลอดได ้
Myoma uteri: Impact on pregnancy 186

