Page 55 - หนังสือกฐินวัดกัลยาณมิตร 5-10-2563
P. 55

ทักทายด้วยความคุ้นเคย ตอนท้ายทรงรับสั่งว่า ท่านเดินทางมาแต่ไกล นานปีจึงจะได้
                   พบกัน ขอจงให้พรโยมให้ชื่นใจเถิด เมื่อได้รับอนุญาตจากสมเด็จพระสังฆราชแล้วท่าน

                   เจ้าคุณก็ตั้งพัดยศขึ้นถวายพระพรด้วยปฏิภาณโวหารว่ากลอนสดเป็นภาษาบาลีว่า

                               อติเรกวสฺสสต ชีว            (ขอพระองค์จงมีพระชนม์เกินร้อยปี)

                               อติเรกวสฺสสต ชีว            (ขอพระองค์จงมีพระชนม์เกินร้อยปี)

                               อติเรกวสฺสสต ชีว            (ขอพระองค์จงมีพระชนม์เกินร้อยปี)
                         ทีฆายุโก โหตุ อโรโค โหตุ          (ขอพระองค์จงทรงพระเจริญ ปราศจากโรคา)

                         ทีฆายุโก โหตุ อโรโค โหตุ          (ขอพระองค์จงทรงพระเจริญ ปราศจากโรคา)

                         สุขิโต โหตุ ปรมินฺทมหาราชา        (ขอพระองค์ทรงพระเกษมส�าราญ)

                         สิทฺธิกิจฺจ สิทฺธิกมฺม สิทฺธิลาโภ ชโย นิจฺจ ปรมินฺทมหาราชวรสฺส ภวตุ สพฺพทา

                             “ขอความส�าเร็จในการบ�าเพ็ญพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่และชัยชนะ

                   จงมีแด่มหาบพิตรในที่ทุกสถาน ตลอดกาลเป็นนิจเทอญ ขอถวายพระพร”

                           เน่องจากพระอุดมปิฎกท่านไม่ได้เตรียมไว้ก่อน เพราะไม่รู้ว่าจะต้องถวายพระพร
                             ื
                   จึงว่าติดเป็นระยะๆ วรรคแรกว่าซ้าถึง ๓ หนจึงว่าวรรคที่สองต่อไปได้ ว่าวรรคที่สองซ�้า

                   ถึง ๒ หน จึงว่าวรรคที่สามต่อไปได้

                                                                                            ี
                           พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงสดับแล้วทรงโปรดพระพรบทน้มาก จึงทรง
                   รับสั่งให้ถือเป็นธรรมเนียม ให้พระสงฆ์ใช้พรบทนี้ถวายพระพรพระมหากษัตริย์ในพระ

                   ราชพิธีทั้งปวงตราบเท่าทุกวันนี้โดยมิได้ตัดตอนแก้ไขแต่ประการใด แม้ค�าที่ท่านว่าซ้า

                   สองสามหน ก็รักษาไว้เหมือนเดิมเรียกว่า ถวายอดิเรก แต่ได้ทรงเพิ่มค�าว่า ตุ ต่อท้าย

                   ค�าว่า ชีว เป็น ชีวตุ สืบมาจนบัดนี้

                           พระอุดมปิฎก ผู้เป็นต้นเหตุถวายพระพรบทน้เป็นพระราชาคณะ ดังนั้นจึงได้ถือ
                                                                       ี
                                                                                       ั
                                                    ี
                                                               ิ
                                    ื
                   เป็นธรรมเนียมสบมาว่า พระผู้ท่จะถวายอดเรกได้น้น ต้องมสมณศกดเป็นพระราชา
                                                                                ี
                                                                                          ์
                                                                                          ิ
                                                                       ั
                   คณะ ธรรมเนียมนี้ได้รักษามาเป็นเวลาช้านาน
                           ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๑๐ จนถึงปัจจุบันนี้ ทางการคณะสงฆ์ได้อนุญาตให้พระครู ชั้น
                   สัญญาบัตรช้นเอกผู้ดารงตาแหน่งเจ้าอาวาสพระอารามหลวง ซ่งถือพัดยศเปลวเพลิง
                                                                                  ึ
                                ั
                                              �
                                        �
                                                                                    ั
                   เป็นผู้ถวายอดเรกได้โดยอนุโลม นบได้ว่าพระอุดมปิฎกเป็นต้นบญญัติแห่งการถวาย
                                  ิ
                                                      ั
                   อดิเรก ด้วยประการฉะนี้.
                                                                                                    53

       ������������������������ 2563 ������������.indd   53                                         21/10/2563 BE   13:44
   50   51   52   53   54   55   56   57   58   59   60