Page 15 - การวิเคราะห์อภิปรัชญาที่ปรากฎในสารัตถะแห่งคัมภีร์มิลินทปัญหา
P. 15

บทที่ ๑




                                                             บทน า




                       ๑.๑ ความเป็นมาและความส าคัญของปัญหา


                                 อภิปรัชญา (Metaphysics) เป็นปรัชญาที่เก่าแก่ที่สุดสาขาหนึ่งของปรัชญาเรียกว่า
                       ปรัชญาบริสุทธิ์ (Pure Philosophy) มีเนื้อหาว่าด้วยเรื่องความจริง (Reality) ของโลกจักรวาล

                                                              ั
                                                                    ื้
                                                                                          ื่
                       ตลอดจนสิ่งสัมบูรณ์และธรรมชาติของมนุษย์อนเป็นพนฐานที่มาของความจริงอน ๆอภิปรัชญาใน
                       ภาษาองกฤษเรียกว่า Metaphysics เป็นสาขาปรัชญาที่ว่าด้วยสิ่งเป็นจริงเช่นพระเป็นเจ้า (God) โลก
                             ั
                                                                                  ๑
                       (World) วิญญาณ (soul) สาระ (substance) เจตจ านงเสรี (free will) เป็นสาขาที่ว่าด้วยความจริง
                       แท้ (สิ่งเป็นจริง) เรื่องจักรวาลโลกสรรพสิ่งและภาวะเหนือธรรมชาติแบ่งเป็นสาขาย่อย๓สาขา คือภว

                       วิทยาศึกษาความจริงสากลของภาวะในฐานะความจริงสูงสุดของสรรพสิ่งเทววิทยาศึกษาความจริง
                       เกี่ยวกับพระเจ้าและความสัมพนธ์ระหว่างพระเจ้ากับจักรวาลและจักรวาลวิทยาศึกษาความจริง
                                                 ั
                       เกี่ยวกับบ่อเกิดและโครงสร้างของจักรวาล
                                                         ๒
                                 อภิปรัชญา คือสาขาปรัชญาที่ศึกษาหาความเป็นจริงของสิ่งทั้งหลายโดยใช้เหตุผลเป็น

                       เครื่องมือหรือเรียกสั้น ๆ ว่า เป็นวิชาที่ว่าด้วยการคาดคะเนความจริงด้วยเหตุผลไม่ยอมเชื่ออะไรง่าย
                       ๆ มีจุดมุ่งหมายโดยการใช้เหตุผล หาสิ่งเป็นจริง (reality) ในทางอภิปรัชญาได้แก่  "สิ่งที่มีอยู่จริง

                       เป็นอยู่จริงซึ่งอาจรู้ได้หรือไม่อาจรู้ได้ทางประสาทสัมผัส" สิ่งที่เป็นจริงนั้นมีลักษณะ ๒ อย่าง คือ มีอยู่

                       จริงและเป็นอยู่จริง ฉะนั้นการจะถือว่าสิ่งใดเป็นสิ่งเป็นจริง ก็ต้องดูว่า สิ่งนั้น มีอยู่จริงและเป็นอยู่จริง
                       หรือไม่การจะรู้ว่าสิ่งใด มีอยู่จริงหรือไม่มีอยู่จริงให้ศึกษาจากความมีอยู่ (existence) ของสิ่งนั้น เช่น

                       ศึกษาว่า พระเป็นเจ้า (God) มีอยู่จริงหรือไม่ ถ้ามีอยู่จริง มีอยู่ที่ไหน อยู่อย่างไรพวกเทวนิยม
                       (theists) จะตอบค าถามนี้ว่า พระเป็นเจ้ามีอยู่เอง เป็นอยู่เอง คือ เกิดเอง ไม่มีเหตุปัจจัยภายนอก จึง





                                 ๑ ราชบัณฑิตยสถาน, พจนานุกรมศัพท์ปรชญาอังกฤษ – ไทย, (กรุงเทพมหานคร: ศักดิโสภาการ
                                                                ั
                       พิมพ, ๒๕๔๘), หน้า๖๓.
                          ์
                                 ๒ พระเมธีธรรมาภรณ์ (ประยูรธมฺมจิตฺโต), ปรชญากรีกโบราณตอนที่๑-๒, (กรุงเทพมหานคร: บริษัท
                                                                 ั
                       อัมรินทร์พริ้นติ้งกรุ๊ปจ ากัด, ๒๕๓๒), หน้า๒-๓.
   10   11   12   13   14   15   16   17   18   19   20