Page 31 - ประวัติศาสตร์วิทยาศาสตร์
P. 31

30                                       ประวัติศาสตร์วิทยาศาสตร์



                   เขำจึงปรำกฏค�ำอธิบำยในอำรยธรรมต่ำงๆ เช่น เทพอัสนีซึ่งควบคุมลมฟ้ำ หรือ
                           ่
                                                                        ้
                   พระพิรุณซึงเป็นผู้ควบคุมฝน หลังจำกสังคมบุพกำลสร้ำงค�ำอธิบำยเบืองหลัง
                          ้
                           ้
                   ลักษณะนีขึนมำ พิธีกรรมต่ำงๆ ก็ตำมมำ ยกตัวอย่ำงเช่น เมื่อเพำะปลูกและ
                   ต้องกำรผลผลิตทีอุดมสมบูรณ์ต้องบูชำเทพเจ้ำทีเกียวข้องอย่ำงพระแม่ธรณี
                                 ่
                                                          ่
                                                         ่
                   หรือแม่โพสพ หรือหำกจะขอฝนก็ต้องบูชำพระพิรุณ
                                   ่
                                       ่
                        มองอีกมุมหนึง  นีเป็นแนวโน้มกำรใช้บุคลำธิษฐำนกับปรำกฏกำรณ์
                                           ้
                   ธรรมชำติ  โดยสร้ำงเทพเจ้ำขึนในรูปลักษณ์ของมนุษย์แต่มีฤทธิเดชเหนือ
                                                                      ์
                   ธรรมชำติ เป็นกำรเปิดทำงให้มนุษย์ใช้กำรเปรียบเปรย (analogy) ควำมนึกคิด
                                        ้
                   ของตนกับธรรมชำติได้ง่ำยขึน  เช่นกำรอธิบำยก�ำเนิดของเครือข่ำยครอบครัว
                                    ู
                   เทพเจ้ำโดยมีกำรสมส่ของเทวบิดำและเทวมำตำในหลำยอำรยธรรม  และ
                                 ่
                   เครือข่ำยเทพเจ้ำทีถือก�ำเนิดมำก็มีหน้ำทีควบคุมธรรมชำติในด้ำนต่ำงๆ  กรณี
                                                  ่
                                                                           ้
                   เทพเจ้ำกรีกจัดอยู่ในข่ำยนีเช่นกัน Lindberg (2007, p. 6) ชีว่ำวิธีกำรนีคือ
                                                                   ้
                                       ้
                   กำรฉำยภำพกระบวนกำรทำงชีวภำพของมนุษย์ให้ทำบลงไปยังปรำกฏกำรณ์
                               ้
                   ธรรมชำติ  ดังนัน  ในหลำยกรณีค�ำอธิบำยกำรก�ำเนิดของจักรวำลจึงเหมือน
                   กระบวนกำรก�ำเนิดชีวิต  หรือปรำกฏกำรณ์บนฟำกฟ้ำถูกอธิบำยผ่ำนพลังที  ่
                                                        ้
                   ต่ำงขัวกันสองฝำยด้ำนดีกับด้ำนร้ำย  สะท้อนพืนฐำนควำมเป็นมนุษย์ทีน�ำ
                                                                            ่
                               ่
                       ้
                   ประสบกำรณ์ใกล้ตัวมำใช้อธิบำยธรรมชำติให้เป็นกระบวนกำรทีตนเองท�ำควำม
                                                                  ่
                   เข้ำใจได้
                                                         ่
                        สังคมบุพกำลยังมีลักษณะเฉพำะอีกข้อหนึงคือเป็นสังคมทีอำศัยจารีต
                                                                     ่
                   การบอกเล่า  (oral  tradition)  มนุษย์สมัยก่อนประวัติศำสตร์ยังไม่มีกำร
                   ประดิษฐ์ระบบภำษำเขียน ไม่มีตัวอักษร และยังไม่รู้จักกำรบันทึก กำรถ่ำยทอด
                   เรืองรำวควำมรู้ต่ำงๆ จำกรุ่นสู่รุ่นจึงต้องผ่ำนกำรบอกเล่ำ กำรบอกเล่ำท�ำงำน
                    ่
                             ่
                   ร่วมกับกำรสังสมประสบกำรณ์  เช่น  กำรถ่ำยทอดเทคนิคกำรเพำะปลก
                                                                            ู
                   ถ่ำยทอดเทคนิคกำรท�ำขวำนหิน  หรือกำรสอนให้ระวังสัตว์บำงประเภท  กำร
                                                              ่
                                ่
                   สอนให้ระวังพืชทีมีพิษ  ฯลฯ  ในขณะเดียวกันควำมรู้ทีเกินกว่ำขีดจ�ำกัดของ
                                                                         ่
                                                  ่
                   ประสำทสัมผัสก็ถูกถ่ำยทอดเป็นควำมเชือทำงสังคมด้วย เช่น ต�ำนำนเกียวกับ
                                                                     ่
                   เทพเจ้ำต่ำงๆ  กำรอธิบำยจักรวำลวิทยำ  (cosmology)  ในแบบทีสัมพันธ์กับ
                                                               ้
                   กำรกระท�ำของเทพเจ้ำ จึงกล่ำวได้ว่ำจำรีตกำรบอกเล่ำไม่เอือให้เกิดกำรพัฒนำ
   26   27   28   29   30   31   32   33   34