Page 30 - ประวัติศาสตร์วิทยาศาสตร์
P. 30
History of Science 29
กับสภำพแวดล้อมตำมธรรมชำติก่อนจะก้ำวสู่ควำมเป็นวิทยำศำสตร์ มนุษย์มี
ปฏิสัมพันธ์กับธรรมชำติผ่ำนกำรสังเกตและรับรู้ ท�ำควำมเข้ำใจวัฏจักร
่
่
ธรรมชำติให้ได้มำกทีสุดและแสวงหำหนทำงทีเป็นประโยชน์ต่อกำรด�ำเนินชีวิต
่
แม้ภำยใต้สังคมเกษตรจะแสดงถึงกำรวินิจฉัยธรรมชำติในแง่มุมทีกล่ำว
้
มำ แต่หำกเทียบกับวิทยำศำสตร์สมัยใหม่ สิงทียำกขึนอีกระดับคือกำรเข้ำใจ
่
่
่
เรืองควำมเป็นสำเหตุ (causation) ของปรำกฏกำรณ์ธรรมชำติ เช่น มนุษย์
อำจประสบควำมส�ำเร็จในกำรท�ำควำมเข้ำใจระบบเวลำในรอบปีโดยสังเกตอย่ำง
้
ต่อเนืองว่ำ เกิดฤดูร้อน ฤดูฝน และฤดูหนำว เป็นประจ�ำทังสำมฤดูกำลในรอบ
่
ปีหนึงๆ และใช้วิธีนับจ�ำนวนวันในแต่ละฤดูจนก�ำหนดรอบปีได้ สำมำรถใช้
่
ประโยชน์จำกกำรนับฤดูกำลว่ำเมือใดควรเริมกำรเพำะปลูก น�ำจะมำเมือไร และ
่
่
่
้
วำงแผนให้สอดคล้องกับช่วงเก็บเกียว สิงนีสะท้อนควำมก้ำวหน้ำในปฏิสัมพันธ์
่
้
่
่
กับธรรมชำติอย่ำงปฏิเสธไม่ได้ แต่เมือกล่ำวถึงสำเหตุทีอยู่เบืองหลัง มนุษย์ใน
้
่
อดีตไม่มีศักยภำพมำกพอทีจะอธิบำยเหตุปัจจัยของฤดูกำลดังทีโลกปัจจุบัน
่
่
ทรำบกัน มนุษย์เรำไม่สำมำรถอธิบำยว่ำช่วงฤดูร้อนในแต่ละภูมิภำคของโลก
่
้
่
่
เป็นช่วงทีพืนทีบริเวณนันๆ หันเข้ำใกล้ดวงอำทิตย์ หรือในฤดูหนำวซึงกลำงคืน
้
มำเร็ว มนุษย์อำจปรับตัวท�ำกิจกรรมทีต้องอำศัยแสงสว่ำงให้ใช้เวลำกระชับ
่
้
่
มำกขึน แต่ในโลกก่อนสมัยใหม่จะไม่สำมำรถอธิบำยได้เลยว่ำเหตุทีกลำงคืนมำ
้
เร็วกว่ำฤดูอืนเพรำะช่วงนันแกนโลกเอียงจนหันพืนทีเขตหนำวให้ห่ำงออกจำก
้
่
่
ดวงอำทิตย์
่
่
่
สำเหตุทีสังคมในอดีตไม่สำมำรถบรรลุถึงชุดค�ำอธิบำยทีถูกต้องเกียว
่
กับปรำกฏกำรณ์ธรรมชำติเป็นเรืองทีเข้ำใจได้ เพรำะด้วยข้อจ�ำกัดทำงกำยภำพ
่
่
มนุษย์ไม่รู้แม้แต่สัณฐำนทีแท้จริงของโลกหรือเข้ำใจเรืองระบบสุริยะ (Solar
่
system) เมือต้องสังเกตและอธิบำยธรรมชำติ ผลทีตำมมำอย่ำงหลีกเลียงไม่ได้
่
่
่
่
คือกำรอธิบำยปรำกฏกำรณ์ธรรมชำติด้วยสิงเหนือธรรมชำติหรือเทพเจ้ำ เช่น
มนุษย์สังเกตว่ำหำกมีฟ้ำคะนอง ฟ้ำผ่ำ และก้อนเมฆหนำรวมตัวกันมำกๆ จะ
้
้
้
มีฝนตกหลังจำกนัน ปรำกฏกำรณ์นีเกิดซ�ำๆ จนอำจสรุปจำกประสบกำรณ์ว่ำ
่
ฟ้ำคะนองก่อนฝนตก แต่กำรสรุปนีไม่ได้ช่วยอธิบำยในแง่มูลเหตุ เมือต้อง
้
้
อธิบำยกระบวนกำรเบืองหลังซึงเกินกว่ำประสำทสัมผัสของมนุษย์ไปแล้ว พวก
่

