Page 28 - ประวัติศาสตร์วิทยาศาสตร์
P. 28
2
สารวจอารยธรรมตะวันตกโบราณ
�
้
สังคมมนุษย์ก่อตัวตังแต่ยุคหิน (Stone age) ซึงมีระยะเวลำยำวนำนประมำณ
่
2 ล้ำน 5 แสนปีและสินสุดลงประมำณช่วง 4000 ปีก่อนคริสต์ศักรำช ในยุคหิน
้
นัน มนุษย์ยังเป็นชนเผ่ำเร่ร่อน ด�ำรงชีพด้วยกำรล่ำและเก็บของป่ำ มีกำรแบ่งยุค
้
หินออกเป็นสองช่วงย่อยคือยุคหินเก่ำ (Paleolithic) กับยุคหินใหม่ (Neolithic)
โดยใช้ช่วงเวลำประมำณ 10,000 ปีก่อนคริสต์ศักรำชเป็นเส้นแบ่ง แม้ว่ำมนุษย์
่
่
ในยุคหินจะใช้หินเป็นวัสดุหลักเพือประดิษฐ์สร้ำงเครืองมือเครืองใช้ต่ำงๆ แต่
่
่
่
เมือถึงยุคหินใหม่ กำรเพำะปลูกได้เข้ำมำแทนทีกำรยังชีพด้วยกำรล่ำแบบเร่ร่อน
่
มนุษย์เริมลงหลักปักฐำนสร้ำงทีอยู่อำศัยถำวรควบคู่ไปกับกำรผันตัวเป็นสังคม
่
เกษตรกรรม ควำมเปลียนแปลงนีถือเป็นกำรปฏิวัติครังส�ำคัญครังหนึงแม้ว่ำ
้
่
้
่
้
่
่
เครืองมือทีใช้ยังคงเป็นเครืองมือท�ำจำกหินซึงไม่ต่ำงไปจำกยุคหินเก่ำมำกนัก
่
่
่
่
เมือมนุษย์เริมอำศัยในถินฐำนทีแน่นอน สังคมจึงขยำยตัวมำกขึนและ
้
่
่
มีควำมซับซ้อนขึนจนพัฒนำเป็นอำรยธรรมเมือง (urban civilization) ในช่วง
้
่
เวลำประมำณ 3000 ปีก่อนคริสต์ศักรำช อำรยธรรมเมืองขนำดใหญ่ทีมีควำม
รุ่งเรืองและมักถือเป็นรำกเหง้ำของอำรยธรรมตะวันตกได้ถือก�ำเนิดขึน นันคือ
้
่
อำรยธรรมเมโสโปเตเมีย (Mesopotamia) ในตะวันออกกลำง และอำรยธรรม
้
อียิปต์ (Egypt) ลุ่มแม่น�ำไนล์ในทวีปแอฟริกำ ทั้งนี้ควำมก้ำวหน้ำของแนวคิด
ปรัชญำธรรมชำติรวมถึงจำรีตช่ำงฝีมือในอำรยธรรมทั้งสองมีพัฒนำกำรที่ล�้ำหน้ำ
สังคมบุพกำลอย่ำงเห็นได้ชัด

