Page 32 - แต้จิ๋ว แต่แจ๋ว
P. 32
หานเซียงจื่อ เรียกสหายเซียนอีกเจ็ดเซียนที่เหลือมาช่วยสร้าง
ข้างหลวงจีนก่วงจี้ก็นิมนต์สิบแปดอรหันต์ให้ออกหน้า
หานเซียงจื่อและเหล่าเซียนเหาะไปยังภูเขาหงเฟิ่งซาน เสกให้ก้อน
หินกลายเป็นสุกรด�า เดินแถวลงจากเขาเพื่อไปเป็นหินก่อตอม่อ แต่พลันมี
หญิงท้องแก่มาพบเห็นเข้า นางร้องทักว่า “ช่างประหลาดแท้” แค่ร้องทัก
มนต์ก็เสื่อม พวกสุกรด�ากลับกลายเป็นหินดังเดิม
้
ี
ข้างหลวงจีนก่วงจ้และสิบแปดอรหันต์อยู่อีกฝั่งแม่นา ก็เหาะไปยัง
�
เขาอีกลูก เสกก้อนหินให้กลายเป็นฝูงแพะเดินลงแม่น�้าเช่นกัน แต่ก็มีเหตุ
ให้เจ้าที่ ณ ที่แห่งนั้น เกิดอยากได้แพะเหล่านี้ขึ้นมา จึงมาทวงสิทธิ์ว่า แพะ
ี
เหล่าน้อยู่ในท่ของเขา จึงสมควรเป็นของเขา หลวงจีนก่วงจ้จาต้องมอบ
ี
�
ี
ให้ไป แต่เมื่อเจ้าที่ต้อนฝูงแพะไป ฝูงแพะก็คืนร่างกลายเป็นหินไปในที่สุด
ี
ั
ท้งสองเหตุการณ์น้ เป็นการอธิบายว่า เพราะหินมีไม่พอสะพานน ้ ี
จึงไม่ได้สร้างเป็นสะพานมีคานตอม่อไปท้งสะพาน จึงเว้นว่างให้มีส่วนท ่ ี
ั
เป็นสะพานทุ่น ซึ่งในนิทานเล่าว่า เมื่อหินไม่พอ ทั้งเซียนเต๋า และหลวงจีน
พุทธก็ใช้อิทธิฤทธิ์แก้ปัญหา
เหอเซียนกู โปรยกลีบดอกบัวลงไปในนากลายเป็นเรือสิบแปดลา
�
้
�
�
หลวงจีนก่วงจ้ โยนไม้เท้าลงไปกลายเป็นโซ่คล้องเรือท้งสิบแปดลาเข้าไว้
ี
ั
ด้วยกันจนส�าเร็จเป็นสะพานขึ้นมาได้
และด้วยเหตุน้ ชาวบ้านจึงเช่อกันว่า สะพานฝั่งตะวันออกเรียกว่า
ี
ื
เซียงจื่อเฉียว ตามชื่อของโป๊ยเซียน หานเซียงจื่อ ส่วนฝั่งตะวันตกเรียกว่า
�
ี
ื
ก่วงจ้เฉียว ตามช่อของหลวงจีนก่วงจ้ น่นเป็นสาเหตุท่ทาให้สะพานเส้นน ี ้
ี
ั
ี
มีสองชื่ออย่างที่ทราบกัน
31

