Page 74 - รายวิชาภาษาไทย(พท31001)
P. 74

74 | ห น า



                                                                                             ื
                               3.5.2 เปรียบสิ่งหนึ่งเปนอีกสิ่งหนึ่ง บางตําราเรียกวาอุปลักษณ เชน พอแมคอ รมโพธิ์ ร
               มไทร ของลูก

                                         
                               ราชาธิราชนอม                     ใจสัตย
                               อํามาตยเปนบรรทัด               ถองแท

                                            
                                                   
                                         ิ
                               3.5.3 สมมุตสิ่งตางๆ ใหมีกิริยาอาการเหมือนมนุษย หรือที่เรียกวาบุคลาธิษฐาน เชน น้ํา
               เซาะหินรินรินหลากไหล  ไมหลับเลยชั่วฟาดินสลาย

                               3.5.4 การใชคําสัญลักษณหรือสิ่งแทนสัญลักษณ หมายถึง สิ่งหนึ่งใชแทนอีกสิ่งหนึ่ง เช
                                                    
               น แมนเปนบัวตัวพี่เปนภุมรา เชยผกาโกสุมประทุมทอง


                         3.6  การกลาวเกนจริง  หรือที่เรียกวา  อติพจน  (อธิพจน)  การกลาวเกินจริงนี้ปรากฏอยูใน
                                        ิ
                                                        ู
                  ิ
                           ิ
                                                                                        ั
               ชีวตตามปกต เชน เมื่อเราตองการจะเนนความรสึกบางอยาง เชนกลาว “เหนื่อยสายตวจะขาด” หรือ “ร
                                                                                  
                                              
               อนแทบสุก” การกลาวเกินจริง ทําใหเกิดความแปลกและเรียกรองความสนใจไดด  ี
                                                                    
                                                                                            ั
                         3.7  การเลนเสียงวรรณยุกต  กวีใชคาที่ประกบดวยสระ  พยัญชนะ  และตวสะกดอยาง
                                                           ํ
                                                          ี่
                               
                                                                     
                                                      
                                                                                              ี
                       
               เดียวกันตางกันแตวรรณยุกต โดยนํามาเรียงไวในทใกลกันทําใหเกิดเสียงไพเราะดุจเสียงดนตร เชน
                               “สละสละสมร               เสมอชื่อ ไมนา
                         นึกระกํานามไม                 แมนแมนทรวงเรียม”
                               หรือ
                                                         ู
                         “จะจับจองจองสิ่งใดนั้น         ดสําคัญคั่นคั้นอยางงันฉงน
                                    
                                                         
                                                                   
                                                                          
                         อยาลามลวงลวงดูแลศกล          คอยแคะคนขนคนใหควรการ”
                         3.8  สัมผัสอักษร กวีจะใชคําที่มีเสียงพยัญชนะเดียวกัน เชน โคลงกลบอักษรลวน
                                            ิ
                               ชายชาญชัยชาตเชื้อ        เชิงชาญ
                         สูเศิกสุดเศิกสาร               สงสรอง
                                                             
                            
                         ราวรามรุทรแรงราญ               รอนราพณ  
                         เกริกเกียรตไกรกึกกอง          กอกูกรุงไกร
                                    ิ
                                                                                  
                                                                                     
                                         (พระราชนิพนธพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกลาเจาอยูหัว)




                         3.9  สัมผัสสระ กวีจะใชคําที่มีเสียงสระคลองจองกัน เชน
                                   เขาทางตรอกออกทางประต  ู

                                                        
                                                        ุ
                                   คางคกขึ้นวอแมงปอใสตงติ้ง
   69   70   71   72   73   74   75   76   77   78   79