Page 13 - ประวัติศาสตร์การสงคราม บทที่ 6-9
P. 13

13




                  แม่น้ำสายใหญ่ ๆ ส่วนมากไหลจากใต้สู่ตะวันตก แม่น้ำเหล่านี้มีความกว้างและลึกพอที่จะเป็นอุปสรรคขัดขวาง
                  การปฏิบัติการทางทหารยิ่งในฤดูฝนแล้วนับว่าเป็นอุปสรรคสำคัญทีเดียว

                         ดินฟ้าอากาศของเกาหลีเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศไทยแล้ว ก็นับว่าเป็นประเทศที่มีดินฟ้าอากาศ
                  หนาวเย็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางเหนือดินฟ้าอากาศหนาวจัด ย่อมเป็นอุปสรรคแก่การปฏิบัติการรบอยู่ไม่น้อย

                  ฤดูใบไม้ผลิเริ่มแต่เดือนกุมภาพันธ์หรือต้นเดือนมีนาคม ฤดูฝนเริ่มแต่เดือนกรกฎาคม หรือเดือนสิงหาคม

                  กำลังและแผนของทั้งสองฝ่าย
                         เกาหลีเหนือ นับตั้งแต่โซเวียตเริ่มเขายึดครองเป็นต้นมา พวกคอมมิวนิสต์ได้พยายามโฆษณาชวนเชอ
                                                                                                           ื่
                                                       ้
                                         ้
                  ให้เกาหลีเหนือทำลายลางลางจักรวรรดินิยมอเมริกาด้วยกำลัง คือ บุกเข้ายึดครองเกาหลีใต้ ในเดือน ธันวาคม
                                     ้
                  ค.ศ.1948 รัสเซียได้ประกาศว่าตนเองได้ถอนกำลังทหารที่ยึดครองออกจากเกาหลีเหนือหมดสิ้นแล้ว แต่ก็ไม่
                  ยอมให้คณะกรรมการของสหประชาชาติเข้าไปตรวจสอบความจริง

                         แม้ว่าแผนการระดมพลของเกาหลีเหนือกำหนดกำลังพลไว้เป็นจำนวนถึง 15 กองพล และอีก

                  1 กองพลน้อยยานเกราะรถถังขนาดเบา แบบ T-34 ของรัสเซีย และหน่วยสนับสนุนอีกก็ตาม แต่กำลงทพร้อม
                                                                                                     ั
                                                                                                        ี่
                  รบและใช้ในการรุกรานครั้งนี้มีเพียง 6 กองพลเท่านั้น ในจำนวนนี้คอมมิวนิสต์ก็เชื่อมั่นว่าเพียงพอแก่การปฏิบัต  ิ
                  กำลังเหล่านี้ได้รับการฝึกเป็นอย่างดีที่สุดของโซเวียต ยิ่งกว่านั้นยังมีทหารเกาหลีชำนาญศึกถึง 2,500 คน
                  รวมอยู่ด้วย ทหารเหล่านี้เคยร่วมรบกับจีนคอมมิวนิสต์ในแมนจูเรียมาแล้วอย่างโชกโชน กำลังพลของเกาหล ี

                  เหนือรวมทั้งสิ้นประมาณ 130,000 คน มีรถถังสนับสนุนอยู่ 100 คันเป็นรถถังของโซเวียตแบบ T-34 และมี
                  เครื่องบินขับไล่แบบ “ยัค” (Yak) ของรัสเซียที่ใช้สมัยสงครามโลกครั้งท 2 อีกประมาณ 180 เครื่อง เป็น
                                                                                ี่
                  เครื่องบินรบที่ล้าสมัยซึ่งโซเวียตให้มา กำลังทางเรือของเกาหลีเหนือนับว่าหย่อนทั้งประสิทธิภาพและปริมาณ

                  แต่ก็นับว่าเพียงพอกับการลำเลียงตามชายฝั่ง เพื่อสนับสนุนกำลังทางบกเมื่อถึงคราวจำเป็น นอกจากนั้น ยังมี
                  ทหารกองหนุนที่ได้รับการฝึกเป็นอย่างดีอีกประมาณ 100,000 คน

                         เกาหลีใต เมื่อกำหนดเวลาแห่งการยึดครองได้สิ้นสุดลงในเดือนมิถุนายน ค.ศ.1949 คณะที่ปรึกษา
                                 ้
                  ทางการทหารประจำเกาหลีใต้คงอยู่ในเกาหลีใต้ต่อไป ตามคำขอร้องของรัฐบาลประเทศนั้น คณะที่ปรึกษา
                                                                                                   ั
                                                                                                           ี
                  ทหารนี้มีนายทหารอเมริกัน 500 คน และพลทหารอีกจำนวนหนึ่ง มีหน้าที่ช่วยฝึกทหารให้แก่กองทพเกาหลใต  ้
                  คณะที่ปรึกษาทางทหารคณะนี้ ดูเหมือนจะอยู่ในบังคับบัญชาของเอกอัครราชทูตอเมริกันประจำประเทศ

                                                                                                            ั
                  เกาหล มากกว่าที่จะขึ้นตรงต่อ นายพล ดักลาส แมคอาเธอร์ (Gen Douglas Macarthur) เพราะในระยะหลง
                       ี
                                                                                  ี
                  ๆ นี้ นายพล ดักลาส แมคอาเธอร์ มิได้มีหน้าที่รับผิดชอบในการป้องกันเกาหล
                         นอกจากนั้น สหรัฐฯยังได้ช่วยเกาหลีใต้อีกกล่าวคือ เมื่อระยะเวลาแห่งการยึดครองได้สิ้นสุดลงสหรัฐได ้
                  มอบอาวุธต่าง ๆ ให้แก่กองทัพเกาหลีไว้ใช้ป้องกันประเทศมีมูลค่าถึง 110 ล้านดอลลาร์ ทหารอเมริกันที่ถอนตัว

                  ไปคงไปแต่ตัวเปล่าเท่านั้นจำนวนอาวุธที่กล่าวนี้นับว่าเพียงพอแก่จำนวนทหาร 50,000 คน ประกอบด้วยอาวุธ

                  มากกว่า 100,000 กระบอก ได้แก่ ปืนเล็กยาว ปืนพก และปืนกล พร้อมทั้งกระสุนอีก 50 ล้านนัด จรวดบาซูกา
                  ขนาด 2.36 นิ้วกว่า 2,000 กระบอก และลูกบาซูกาอีก 40,000 ลูก ยานพาหนะรวมทุกขนาดแลวจำนวน
                                                                                                     ้
                  4,900 คัน ปืนต่อสู้รถถังขนาด 37 มม. และ 57 มม. อีกจำนวนมาก ปืนใหญ่กระสุนวิถีโค้ง 105 มม. เครื่องยิง
                  ลูกระเบิดขนาด 60 มม. และ 81 มม. อีกจำนวนหนึ่ง รวมทั้งลูกระเบิดของเครื่องยิงเหล่านี้อีกกว่า 700,000
   8   9   10   11   12   13   14   15   16   17   18