Page 109 - ประวัติศาสตร์การสงคราม
P. 109
107
หลังจากได้ทำสัญญาร่วมรบกับญี่ปุ่นแล้ว ไทยได้รับอาวุธจากญี่ปุ่นเป็นต้นว่า เครื่องบิน รถถัง และ
ปืนกล จำนวนหนึ่ง โดยเฉพาะปืนกลเบาที่ได้รับจากญี่ปุ่นนั้นเป็นแบบและขนาดแตกต่างจากที่กองทัพไทย
เคยใช้อยู่ ทั้งเวลาในการฝึกให้คุ้นเคยกับอาวุธใหม่นี้มีน้อยทำให้มีเหตุขัดข้องในเวลารบ บางครั้งเกิดเป็นผล
เสียหายในการปฏบิ ัติการรบ
กำลังทางเรือ จำนวนเรือรบมีไมก่ ล่ี ำ เป็นเรือขนาดเล็ก ม่งุ หมายทีจ่ ะรกั ษาชายฝ่ังเทา่ น้ัน
กำลงั ทางอากาศ จำนวนเคร่ืองบินรบมีไม่ก่รี อ้ ยเครอื่ ง ส่วนใหญเ่ ปน็ เครื่องบนิ ขบั ไล่
เนื่องจากก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 ประเทศฝรั่งเศสได้รับการยกย่องว่าเป็นประเทศผู้นำในทาง
การทหารประเทศหนง่ึ การจดั กำลงั รบทางภาคพื้นดินของกองทพั บกไทยจงึ เลียนแบบฝรง่ั เศสและการจัดกำลัง
ทั้งกองทัพเป็นแบบเดียวกันหมด ไม่มีหน่วยพิเศษแต่อย่างใด รูปการจัดมุ่งที่จะใช้รบในภมู ิประเทศเป็นที่ราบ
มากกว่า ตลอดจนการฝึกหัดก็เช่นเดยี วกันกองทัพของเราก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 ไม่ค่อยสนใจการรบในป่า
หรือในภูมิประเทศที่เป็นภูเขาด้วยเหตุนี้เมื่อกองทัพไทยจำต้องไปรบในภาคเหนือของประเทศ ซึ่งภูมิประเทศ
กนั ดารเป็นปา่ เขาจึงเกิดข้อบกพรอ่ งขึ้น เนอ่ื งจากขาดความชำนาญ
การเตรยี มการในกิจการในเขตหลังกค็ งเชน่ เดียวกันกองทัพของเรามีความสนใจน้อยเกนิ ไป ระบบการ
ส่งกำลังบำรุงตลอดจนการฝึกตนเพื่อกิจการในด้านนี้เราไม่ได้เตรียมไว้ตั้งแต่ในยามปกติ รวมทั้งอุปกรณ์การ
ขนส่งกม็ ีไม่เพยี งพอ
ลกั ษณะภมู ิประเทศและเสน้ ทางทางคมนาคม
ตามขอ้ ตกลงรว่ มรบกับญ่ีป่นุ กองทัพไทยต้องปฏิบตั ใิ นพน้ื ทภี่ าคเหนือของประเทศไทย ซึ่งเป็นดนิ แดน
ส่วนหนึ่งของพมา่ เรียกกันว่า ชานสเตท ลกั ษณะภมู ปิ ระเทศโดยทวั่ ไปทุรกนั ดาร เปน็ ป่าและภูเขา ย่งิ ลึกเข้าไป
ในดนิ แดนของข้าศึก (ชานสเตท) ภูเขาย่งิ สงู ชนั ตามลำดบั สงู กว่าระดับนำ้ ทะเลนับเป็นจำนวนพนั ๆ ฟตุ เต็มไป
ด้วยโรคภยั ไขเ้ จ็บ โดยเฉพาะ เช้ือมาลาเรยี ซ่งึ ปลดิ ชีวติ ทหารนบั เปน็ จำนวนหลายพันคน
เส้นทางคมนาคมอาจแบ่งได้เป็นสองตอน ตอนแรกนับแต่ชายเขตแดนพม่ามายังเขตภายในประเทศ
ไทย มีทางรถไฟสายเหนือซึ่งทอดจากเมืองหลวงถึงจังหวัดลำปาง จังหวัดเชียงใหม่ ต่อจากลำปางก็มีเส้นทาง
ถนน ชั้นที่ 1 ทอดไปถึงชายแดนพม่า จากจังหวัดเชียงใหม่มีถนนไปถึงชายเขตพม่า เส้นทางคมนาคมและ
ลกั ษณะภมู ปิ ระเทศในตอนนส้ี มบูรณก์ ว่าตอนที่สอง ซ่ึงจะกล่าวตอ่ ไป
ตอนทส่ี องนับแตช่ ายเขตแดนไทยไปยังดินแดนข้าศึก (ชานสเตท) มเี ส้นทางเขา้ ไปได้สองเส้นทาง จาก
เชยี งรายกงิ่ อำเภอแม่สายไปยังเชยี งตงุ (เมืองหลวงของชานสเตท) ยาว 176 ก.ม. เปน็ ถนนช้นั เลว และเป็นถนน
สายเดียว รถยนต์เดินได้เฉพาะฤดูแล้งเท่านั้น เส้นทางแคบรถยนตห์ ลีกกนั ไม่ได้ต้องจดั ตำบลหลีกเป็นระยะ ๆ
เส้นทางสายนเ้ี ลยี บไปตามไหล่เขาสูง มหี มอกปกคลมุ ในตอนเช้าบางแหง่ ผ่านหนา้ ผาชนั จงึ นบั ว่าเปน็ ประโยชน์
อย่างยิ่งแก่ฝ่ายตั้งรับ ในฤดูฝนถนนสายนี้ใช้ไม่ได้เลยเพราะกลายเป็นโคลนไปหมดจะผ่านไปก็เฉพาะคนและ
สตั ว์ตา่ งเทา่ นน้ั ขนานกบั เส้นทางสายน้ีมเี สน้ ทางคนเดินหลายสาย ซึง่ ผ่านไปตามสนั เขา ทางทรุ กันดารมาก เป็น
ท า ง ข อ ง ช า ว เ ข า ที ่ ใช ้ เ ดิ น ต ิด ต ่ อก ัน จ า กจ ั ง ห ว ัด เ ช ีย ง ใ ห ม่ ไ ปยั ง ช า ยเ ข ต แด น เ ป ็น เส ้ น ท า ง ส า ยตะ ว ัน ตก
รถยนต์เดนิ ได้ ต่อจากนั้นลุกเขา้ ไปในดนิ แดนข้าศึกเปน็ เสน้ ทางคนเดนิ และสัตว์ต่าง ผา่ นเขาสูงทรุ กนั ดารยิ่งกว่า
เสน้ ทางสายแรก เส้นทางเส้นนท้ี อดผ่านเมอื งสาต และพงุ่ เขา้ สู่เชยี งตุงไดเ้ ชน่ เดียวกัน

