Page 115 - ประวัติศาสตร์การสงคราม
P. 115
113
ไว้ในเชียงตุงเพยี งกองพันเดียว คือ ร.พัน.52 ของ ร.7 พล.3 เมื่อญี่ปุ่นยอมจำนนต่อสัมพันธมิตรเมื่อ 14 ส.ค.
2488 ต่อมากองพันทหารราบที่รักษาเชียงตงุ ได้ทำพิธีมอบแคว้นชานสเตทคนื ใหแ้ กอ่ ังกฤษ ภารกิจของกองทัพ
พายัพในสงครามโลกครั้งที่ 2 กเ็ ป็นอันสิน้ สดุ ลง
บทเรียนจากการรบ
ประเทศไทยก็มีสภาพเช่นเดียวกับประเทศฟินแลนด์, นอร์เวย์, เดนมาร์ค, เบลเยี่ยม และฮอลแลนด์
แมว้ ่าจะดำเนินนโยบายเปน็ กลางอยา่ งเคร่งครัด แต่ลักษณะทต่ี งั้ ทางภูมศิ าสตรม์ ีความสำคัญในทางยุทธศาสตร์
ของมหาประเทศ ย่อมจะรักษาความเปน็ กลางไว้ไม่ได้ จึงจำเป็นต้องเข้าสู่สงครามดว้ ยความจำใจ ฉะนัน้ ในยาม
ปกตเิ ราตอ้ งพจิ ารณาให้แน่ชดั วา่ ประเทศใดจะเป็นศัตรูและเตรียมไว้เสยี แต่เนนิ่ สำหรบั ประเทศเลก็ ๆ จำเป็น
อยา่ งยงิ่ ท่ีจะต้องผกู มิตรกับมหาอำนาจท่ีเป็นฝ่ายตรงข้ามกบั ประเทศทเ่ี ป็นศตั รู
ประเทศมหาอำนาจเมื่อแน่ใจในมิตรอันซื่อสัตย์ซึ่งเป็นประเทศเล็กไม่ควรลังเลใจควรช่วยเหลือทุก
วิถีทางตลอดจนการวางแผนร่วมกันเพื่อป้องกันการรุกรานจากศัตรู มิฉะนั้นจะเหมือนกับอังกฤษที่ปล่อยให้
ประเทศไทยตอ้ งเขา้ สูโ้ ดยลำพังตามยะถากรรมในสงครามครัง้ น้ี
เพื่อความรวดเร็วในการระดมพลตลอดจนการจัดกำลังเพื่อส่งไปยังยุทธภูมิด้วยความเรียบร้อยควร
กำหนดระบบท่ีแน่นอนไว้แต่ในยามปกติทหารทีป่ ลดเป็นกองหนุนทกุ คนต้องมีสมุดประจำตัว และประวัติของ
ตนท่ีตน้ สังกดั เมื่อระดมพลประจำกองทพั ไม่ต้องเสียเวลาสอบถามหรอื ทำการคดั เลอื กเขา้ ประจำตำแหนง่ ต่างๆ
นั้นสบั สน ไมต่ รงกบั ความรคู้ วามสามารถของตนทำใหก้ ารปฏิบัตกิ ารรบขาดประสิทธิภาพ
ในตอนเริ่มแรกแห่งสงครามกองทัพเราขาดแคลนนายทหารเพราะนายทหารประจำการมีไม่พอกับ
อัตรา นายทหารกองหนุนที่เรียกเข้าประจำการส่วนมากอายุแก่เกนิ ไปสำหรับตำแหนง่ ต่าง ๆ ทั้งนี้เพราะเรา
ขาดระบบการผลิตนายทหารกองหนนุ ทีแ่ น่นอน
ประเทศท่มี ีลกั ษณะภูมิประเทศของภาคต่าง ๆ ไม่เหมือนกนั กำลังทจ่ี ดั สำหรับจะปฏิบัติในแต่ละภาค
ต้องให้เหมาะสมกับภูมิประเทศ บทเรียนที่ได้รับจากการปฏิบัติของกองทัพพายัพได้แก่ ตอนเริ่มต้นเราได้ใช้
กำลงั ทจ่ี ดั ไว้รบบนพ้ืนราบไปปฏบิ ตั ใิ นชานสเตท ซ่ึงมีภมู ปิ ระเทศป่า และ เขา ทำให้เกิดความอุ้ยอ้ายไม่คลอ่ งตัว
ภายหลังไดม้ กี ารแก้ไขการจดั กำลงั ใหมจ่ ึงทำใหก้ ารปฏบิ ตั ิเกิดผลดีขน้ึ
การศึกษาวธิ ีรบของเหล่าต่าง ๆ ตลอดจนการฝึกก็เชน่ เดียวกนั ในฐานะท่ปี ระเทศไทยมีบางภาค
เปน็ ปา่ และเขา ในยามปกตเิ ราควรสนใจในการศกึ ษาและฝกึ การรบในปา่ และบนเขาเตรยี มไว้อย่างชำนชิ ำนาญ
บทเรียนนี้จะเห็นจากก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 กองทัพเราไม่ค่อยสนใจในเรื่องนี้เท่าใดนกั ฉะนั้นเม่ือจำเป็นท่ี
จะต้องปฏิบัติการรบในป่าและบนเขาจงึ ทำใหเ้ สียเปรียบข้าศึกในตอนแรก กว่าจะเรียนรูถ้ ึงข้อบกพร่องก็ต้อง
เสยี เวลาไปมิใชน่ ้อย
การปฏิบัตกิ ารรบของหนว่ ยรองในกองทพั พายัพคร้งั น้ันกระทำไดไ้ ม่เต็มท่ี บางครัง้ ถึงกับเสียผล
เพราะขาดแคลนแผนทีก่ ล่าวคือ กองพัน, กองร้อย และหมวด โดยปกติเราอาศัยคนพนื้ เมืองช่วยในการนำทาง
และใหข้ า่ วตา่ ง ๆ เกย่ี วกับภูมิประเทศ ผลท่ไี ด้รบั จึงไมแ่ นน่ อนเพราะแผนท่ี ทไี่ ดร้ บั จา่ ยมีแคห่ น่วยกองร้อย และ
เป็นมาตราสว่ นเลก็ เกนิ ไปไม่เหมาะสมกับขนาดหนว่ ย ขอ้ บกพร่องในเร่ืองนีเ้ ราควรรีบแก้ไข อนึ่ง นายสิบของเรา
ส่วนมากใชแ้ ผนทีไ่ ม่เป็น ฉะนนั้ กองทพั เราควรกวดขนั ในเรื่องนี้

