Page 158 - Proceeding_รวมปก_Neat
P. 158

148



               อำชญำกรรมที่ลดน้อยลง) ด้วยกำรใช้ทฤษฎีกำรเปลี่ยนแปลง เชื่อมโยงควำมสัมพันธ์ของโครงกำรไปสู่

               กำรมีปฏิสัมพันธ์ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและปัจจัยน ำเข้ำอย่ำงเห็นได้ชัด


               วิจารณ์ผลการศึกษา

                       บทควำมนี้เป็นกำรประเมินผลตอบแทนทำงสังคมจำกกำรลงทุนตำมหลักกำรเบื้องต้น เนื่องจำก

               กำรวิเครำะห์ดังกล่ำวยังมีข้อจ ำกัดอยู่หลำยประกำรทั้งกำรไม่มีข้อมูลหรือมีข้อมูลไม่สมบูรณ์ซึ่งเป็นสิ่งที่พบได้
               ในทุกกำรศึกษำ (ส ำนักงำนกองทุนสนับสนุนกำรสร้ำงเสริมสุขภำพ, 2557) กำรสร้ำงตัวแทนมูลค่ำผลลัพธ์

               บำงกรณียังอำศัยกำรคำดคะเน เช่น กำรลดลงของผลประโยชน์เนื่องจำกควำมเสื่อมตำมกำลเวลำ (drop-off)

               ส ำหรับกำรค ำนวณหำผลตอบแทนที่คำดกำรณ์ในอนำคต (Ex-ante) แต่อย่ำงไรก็ตำมกำรศึกษำนี้

               มีควำมพยำยำมที่จะลดควำมเข้ำใจที่คลำดเคลื่อนของอำชญำกรรมที่ลดลงในพื้นที่โดยระบุกำรอ้ำงผลกระทบ

               ที่ครอบคลุม (impact claim) ให้มำกที่สุด โดยเก็บข้อมูลจำกผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของโครงกำรฯ พบว่ำ จ ำนวน

               คดีอำญำในฐำนควำมผิดเกี่ยวกับทรัพย์เฉพำะกำรโจรกรรมรถยนต์และโจรกรรมรถจักรยำนยนต์ในช่วงปีที่

               ด ำเนินโครงกำรจนเสร็จสิ้นและปิดโครงกำรมีจ ำนวนลดลงโดยเป็นผลมำจำกกำรลดปัจจัยเสี่ยงตำมทฤษฎี
               สำมเหลี่ยมอำญำชกรรม ประกอบด้วย 1) มิติเหยื่อ คือ มีกำรใช้งำนและกำรรับรู้เทคโนโลยีที่ใช้สนับสนุน

               กำรปฏิบัติหน้ำที่ของเจ้ำหน้ำที่ต ำรวจในกำรสืบสวนสอบสวนและจับกุมผู้กระท ำควำมผิดเมื่อเกิดเหตุโจรกรรม

               2) มิติผู้กระท ำควำมผิด คือ ทรำบถึงกำรรู้เท่ำทันของเหยื่อในกำรใช้งำนเทคโนโลยีเพื่อป้องกันรถยนต์

               รถจักรยำนยนต์ของตน รวมถึงปฏิบัติหน้ำที่ของเจ้ำหน้ำที่ต ำรวจเชิงรุกกำรป้องกันปรำบปรำม ท ำให้เกิดควำม

               ยับยั้งชั่งใจกำรก่อเหตุอำชญำกรรม 3) มิติโอกำสในกำรเกิดอำชญำกรรม คือ กำรลดโอกำส ลดสภำพแวดล้อม

               ในกำรเกิดอำชญำกรรม เช่น กำรจัดระเบียบพื้นที่จอดรถจักรยำนยนต์ กำรเกิดสถำนกำรณ์ระบำดของโรค

               โควิด-19 ท ำให้ประชำชนออกมำใช้พื้นที่สำธำรณะน้อยลง





               ข้อเสนอแนะ
                       กำรศึกษำนี้เป็นกำรประเมินผลเฉพำะข้อมูลที่สำมำรถวัดมูลค่ำและเป็นข้อมูลที่ได้ ณ ช่วงเวลำ

               และเฉพำะพื้นที่เท่ำนั้น มีคุณค่ำและกำรเปลี่ยนแปลงหลำยประกำรยังมิได้ถูกน ำมำค ำนวณ เช่น ควำมค่ำ

               เชื่อมั่นและควำมรู้สึกปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชำชน กำรเปลี่ยนแปลงภำพลักษณ์ขององค์กร

               กำรพัฒนำศักยภำพบุคลำกร เจ้ำหน้ำที่ต ำรวจ ทัศนคติหรือมุมของประชำชนที่มีต่อเจ้ำหน้ำที่ต ำรวจ เป็นต้น

                       ดังนั้นกำรด ำเนินโครงกำรลักษณะนี้ต่อไปในอนำคต จ ำเป็นต้องวำงแผนและเตรียมควำมพร้อม

               ส ำหรับกำรประเมินคุณค่ำ โดยเริ่มตั้งแต่วำงแผนกำรด ำเนินงำน แนวทำง วิธีกำรเก็บข้อมูลที่ครอบคลุม

               ถูกต้อง ชัดเจนเพื่อกำรวิเครำะห์ผลลัพธ์และผลกระทบให้มีควำมน่ำเชื่อถือ ตลอดจนน ำไปสู่กำรใช้
   153   154   155   156   157   158   159   160   161   162   163