Page 257 - Proceeding_รวมปก_Neat
P. 257
242
1. บทน า
เศรษฐกิจไทยในปัจจุบันเผชิญกับควำมท้ำทำยในหลำยมิติ ไม่ว่ำจะเป็นศักยภำพในกำรแข่งขัน
ของประเทศ สังคมสูงวัย ควำมเหลื่อมล ้ำ ควำมผันผวนของเศรษฐกิจโลก รวมถึงควำมก้ำวหน้ำทำงเทคโนโลยี
ที่เข้ำมำเปลี่ยนวิถีชีวิตและวิธีกำรผลิตของสถำนประกอบกำร โดยเฉพำะอย่ำงยิ่งในภำคอุตสำหกรรม คุณภำพ
ของแรงงำนในภำคอุตสำหกรรมจึงมีควำมส ำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ำปัจจัยกำรผลิตอื่น ๆ กำรเตรียมควำมพร้อม
ให้กับแรงงำนที่จะเข้ำสู่ตลำดแรงงำนมีควำมรู้ ทักษะ และสมรรถนะที่เหมำะสมกับอำชีพในอนำคตและตรงกับ
ควำมต้องกำรของสถำนประกอบกำรจึงเป็นเรื่องส ำคัญที่ทุกภำคส่วนต้องให้ควำมส ำคัญ งำนวิจัยชิ้นนี้มุ่งศึกษำ
ควำมคุ้มค่ำของกำรลงทุนด้ำนวิทยำศำสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ววน.) เพื่อส่งเสริมระบบกำรบูรณำกำร
กำรเรียนรู้กับกำรท ำงำน
ในช่วงหลำยทศวรรษที่ผ่ำนมำ ไทยได้ก้ำวจำกกำรเป็นหนึ่งในประเทศที่ยำกจนที่สุดในโลกมำเป็นหนึ่ง
ในประเทศที่มีอัตรำกำรเจริญเติบโตทำงเศรษฐกิจที่สูงที่สุดในโลกและถูกจัดอันดับให้เป็นประเทศรำยได้
ปำนกลำงฐำนบน (Upper-middle income countries) นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2554 (Warr, 1993; Jitsuchon,
2012) กำรเจริญเติบโตทำงเศรษฐกิจที่สูงต่อเนื่องเป็นระยะเวลำนำน (Sustained economic growth)
ส่งผลให้เกิดกำรพัฒนำเศรษฐกิจเป็นวงกว้ำง สะท้อนจำกดัชนีชี้วัดคุณภำพชีวิตที่สูงขึ้น ไม่ว่ำจะเป็นอัตรำกำร
อ่ำนออกเขียนได้ อำยุคำดหวังเฉลี่ย กำรเข้ำถึงกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน รวมถึงกำรลดลงของควำมยำกจน
(Warr, 2019) ซึ่งในช่วงระยะเวลำเดียวกันนี้ เศรษฐกิจไทยได้เผชิญกับกำรเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้ำง
(Structural transformation) เฉกเช่นประเทศก ำลังพัฒนำอื่น ๆ เช่น เกำหลีใต้ จีน และอินโดนีเซีย เป็นต้น
ที่มีกำรเจริญเติบโตทำงเศรษฐกิจในระดับสูง สะท้อนจำกสัดส่วนของผลผลิตจำกภำคกำรเกษตร (Agricultural
output) ที่ลดลงจำกร้อยละ 44 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภำยในประเทศ (Gross domestic product: GDP)
ในปี พ.ศ. 2494 มำเป็นร้อยละ 11 ในปี พ.ศ. 2561 ในช่วงเวลำเดียวกันนี้ สัดส่วนของผลผลิต
จำกภำคอุตสำหกรรมเพิ่มขึ้นจำกร้อยละ 13 มำเป็นร้อยละ 30 (Timmer et al., 2015; de Vries, 2021)
ควำมส ำคัญของภำคอุตสำหกรรมที่เพิ่มขึ้นนี้ได้สร้ำงผลกระทบในหลำยมิติรวมถึงควำมต้องกำรใช้แรงงำน
ในภำคอุตสำหกรรม
กำรเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้ำงของเศรษฐกิจไทยยังสะท้อนได้จำกกำรเปลี่ยนแปลงของสำขำกำรผลิต
(Sector) ที่แรงงำนไทยท ำงำนอยู่ แม้ว่ำแรงงำนไทยส่วนใหญ่จะยังคงท ำงำนในภำคเกษตรกรรมแต่สัดส่วน
ของแรงงำนในภำคนี้ลดลงอย่ำงต่อเนื่อง ระหว่ำงปี พ.ศ. 2554 ถึง พ.ศ. 2563 สัดส่วนของแรงงำนในภำค
เกษตรกรรมลดลงจำกร้อยละ 38.69 มำเป็นร้อยละ 31.34 ขณะที่แรงงำนในภำคอุตสำหกรรม (ภำคกำรผลิต)
เพิ่มขึ้นจำกร้อยละ 13.78 มำเป็นร้อยละ 15.86 เรื่องนี้ส ำทับด้วยกำรที่ตลำดแรงงำนไทยมีสัดส่วนของแรงงำน

