Page 32 - คู่่มือการนิเทศพัฒนาครูภาษาไทยเสริมศักยภาพนักเรียนอ่านออกเขียนได้
P. 32
28
ุ
สื่อการสอน หมายถึง วัสดุ อปกรณ์ เครื่องมือ วิธีการ และกิจกรรมต่างๆ ที่ครูผู้สอนใช้ถ่ายทอด
ื่
ความรู้และประมวลประสบการณ์ไปสู่ผู้เรียนอย่างมีประสิทธิภาพ เพอให้บรรลุตามจุดประสงค์ที่ตั้งไว้ พอ
จ าแนกสื่อการสอนออกเป็น 3 ประเภท ดังนี้
1. สื่อประเภทวัสดุ ( Materials) หรือบางทีเรียกว่าสื่อประเภทเบา (software) หมายถึง สื่อ
ที่เก็บความรู้อยู่ในตัวเอง ซึ่งจ าแนกย่อยออกเป็น 2 ลักษณะ คือ
ุ
ก. สื่อประเภทที่สามารถถ่ายทอดความรู้ได้ด้วยตนเองไม่จ าเป็นต้องอาศัยอปกรณ์อื่นช่วย
เช่น แผนที่ ลูกโลก รูปภาพ หุ่นจ าลอง ฯลฯ
ข. วัสดุที่ไม่สามารถถ่ายทอดความรู้ได้โดยตัวเองจ าเป็นต้องอาศัยอปกรณ์อนช่วย เช่น
ุ
ื่
แผ่นเสียง ฟิล์มภาพยนตร์ สไลด์ ฯลฯ
ุ
2. สื่อประเภทอปกรณ์หรือเครื่องมือ (Equipment) หมายถึง ส่วนที่เป็นตัวกลางหรือตัวผ่าน
ท าให้ข้อมูลหรือความรู้ที่บันทึกไว้ในวัสดุ สามารถถ่ายทอดออกมาให้เห็นหรือได้ยิน เช่น เครื่องฉายแผ่นภาพ
โปร่งใส เครื่องฉายสไลด์ เครื่องฉายภาพยนตร์ เครื่องรับโทรทัศน์ เครื่องเล่นแผ่นเสียง เป็นต้น
3. สื่อประเภทเทคนิคหรือวิธีการ (Techniques or methods) หมายถึง สื่อที่มีลักษณะเป็น
ุ
แนวคิดหรือรูปแบบขั้นตอนในการเรียนการสอน โดยสามารถน าสื่อวัสดุและอปกรณ์มาช่วยในการสอนได้ เช่น
เกมและสถานการณ์จ าลอง การสอนแบบจุลภาค การสาธิต เป็นต้น
2.6 การอ่าน
การอานเป็นทักษะทางภาษาที่ส าคัญและจ าเป็นมากในการด ารงชีวิตของมนุษย์ในชีวิตประจ าวันต้อง
่
อาศัยการอ่านจึงจะสามารถเข้าใจและสื่อความหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2.6.1 ความหมายของการอ่าน
่
่
นิรันดร์ สุขปรีดี (2550) ได้ให้ความหมายของการอานว่า การอาน คือ การเข้าใจความหมายของ
ตัวละคร หรือสัญลักษณ์ ซึ่งจะต้องอาศัยความสามารถในการแปลความ การตีความ การขยายความ การจับ
ใจความส าคัญและการสรุปความ
เรวดี อาษานาม (2550) ได้ให้ความหมายของการอ่าน ดังนี้
การอาน หมายถึง กระบวนการในการแบ่งความหมายของตัวอกษร หรือสัญลักษณ์ที่มีการจัด
่
ั
ิ
บันทึกอย่างมีเหตุผผผลและเข้าใจความหมายของสิ่งที่อาน ตลอดจนการพจารณาเลือกความหมายที่ดีที่สุดขึ้น
่
่
่
่
ไปใช้เป็นประโยชน์ด้วย จะเห็นได้ว่าการอานไม่ใช่การรับเอาความคิดจากหนังสือที่อานเฉยๆ ผู้อานไม่ใช่ผู้รับ
แต่เป็นผู้กระท า สรุปได้ว่าเป็นผู้ใช้ความคิดไตร่ตรองเรื่องราวที่ตนเองอานเสียก่อน แล้วจึงรับเอาใจความของ
่
เรื่องที่ตนอานไปเก็บไว้หรือน าไปใช้ให้เป็นประโยชน์ต่อไป ดังนั้นหัวใจของการอานจึงอยู่ที่การเข้าใจ
่
่
ความหมายของค า
ประทีป วาทิกทินกร (2551) ได้ให้ความหมายของการอาน คือ การรับรู้ข้อความในข้อเขียนของ
่
ตนเอง และของผู้อื่น รวมทั้งการรับรู้เครื่องหมายสื่อสารต่างๆ เช่น เครื่องหมายจราจร และเครื่องหมายที่แสดง
ในแผนภูมิต่างๆ

