Page 91 - คู่มือส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมลูกเสือทักษะชีวิตในสถานศึกษา ประเภทลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่ เครื่องหมายลูกเสือชั้นพิเศษ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
P. 91
มัวประวิงอะไรกันเล่า จงตบมือพลัน
3) การตําหนิตนเอง หรือมองตนเองว่าไร้ความสามารถ เปรียบเทียบตนเองกับผู้อื่น มองว่า
(ผงกหัวพลัน – กระทืบเท้า – จงส่งเสียงดัง – จงออกท่าทาง)
4) การไม่อยู่กับปัจจุบัน วิตกกังวลกับอนาคตที่ยังมาไม่ถึง หรือหมกหมุ่นอยู่กับอดีตที่ผ่าน
ไปแล้ว และอยากแก้ไขอดีตซึ่งเป็นไปไม่ได้
กรณีศึกษา
คิดทางบวก เป็นประเภทที่คิดแล้วนําความสุขมาสู่ตนเอง ได้แก่
นางฟฺากับซาตาน
1) ตั้งความหวัง และคาดการณ์ต่าง ๆ อย่างสอดคล้องกับสภาพความเป็นจริง ทั้งของตนเอง
พิมเป็นคนผิวคล้ํา เกศเป็นคนผิวขาวและสวย มักมีคําล้อเลียนเสมอว่า ใครอยากขาวให้ไปอยู่
และผู้อื่น ไม่คาดหวังจนเกินความสามารถที่จะทําให้สําเร็จได้
ใกล้พิมแล้วจะขาวทันตาเห็น พิมน้อยใจและแอบไปร้องให้อยู่เสมอ
2) ยอมรับจุดดี และจุดที่ต้องแก้ไขของตนเอง อย่างที่เป็น ไม่ตําหนิหรือเปรียบเทียบกับคน
อื่น เน้นการพัฒนาคุณค่าภายในที่สามารถสร้างให้มีมากขึ้นได้เรื่อย ๆ เช่น ความสามารถทาง
สติปัญญา ความมีน้ําใจช่วยเหลือผู้อื่น ความสามารถในการสื่อสารและมีสัมพันธภาพที่ดีกับผู้อื่น ฯลฯ
มากกว่าการแก้ไขรูปลักษณ์ภายนอก ซึ่งเป็นธรรมชาติที่มีมาของแต่ละบุคคล
3) มีสติอยู่กับปัจจุบัน รู้ว่าตนเองทําอะไร เพื่ออะไร คนอื่นไม่รู้ ไม่เข้าใจ ไม่เป็นไร ให้อภัย
เพราะเขาไม่รู้ แต่เราต้องรู้จักตนเอง ทําความเข้าใจตนเอง มีแผนสําหรับอนาคต และทําปัจจุบันให้ดี
ที่สุด เพื่อเป็นรากฐานที่ดีสําหรับอนาคต และไม่ต้องกังวลกับการอยากแก้ไขอดีตซึ่งเป็นไปไม่ได้
4) มองปัญหาว่ามีทางแก้ไขเสมอ มองหาว่า “อะไรผิด” ที่ต้องแก้ แทนการมองหาว่า “ใครผิด”
เพื่อกล่าวโทษ
5) มองสิ่งที่เหลืออยู่มากกว่าสิ่งที่ขาดหายไป หรือหาสิ่งตอบแทนจากการสูญเสีย เช่น มอง
ความผิดพลาดเป็นครูสอนไม่ให้ผิดซ้ํา มองการเย้าแหย่จากเพื่อนเป็นการสร้างสัมพันธภาพที่สนิท
สนมต่อกันมากขึ้น
6) มีอารมณ์ขันเช่น มองการล้อของเพื่อนเป็นเรื่องเล่นกันสนุก ๆ ไม่ใส่ใจเอามาเป็นอารมณ
ใบความร ้ ู ตนเองมีปมด้อย หวั่นไหวตามคําพูดคนอื่น ์
เรื่องเล่าที่เป็นประโยชน์
เรื่อง ความคิด 2 ประเภท
ลักษณะความคิดของคนเรามี 2 ประเภท คือ ตัดเท่าไหร่ถึงจะพอ
คิดทางลบ เป็นประเภทที่คิดแล้วนําความทุกข์มาสู่ตนเอง ได้แก่
1) การตั้งความหวังไว้สูงเกินไป ทั้งต่อตนเองและผู้อื่น นายชุ่มชื่นอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆแห่งหนึ่งใกล้เชิงเขา ทุกวันเขาจะเก็บกิ่งไม้แห้งจากเชิง
2) การคาดการณ์ร้าย คิดถึงแต่สิ่งไม่ดีที่อาจจะเกิดหรือไม่เกิดขึ้นก็ได้ เขาเพื่อนําไปขายให้ชาวบ้านใช้ทําฟืนสําหรับหุงต้ม ฟืนของนายชุ่มชื่นขายดิบขายดีมากเพราะเนื้อ
ไม้แห้งสนิทจุดง่ายติดง่าย เมื่อได้เงินกลับบ้านเขาก็แบ่งให้ภรรยาไว้ใช้สอยประจําวัน
3) การตําหนิตนเอง หรือมองตนเองว่าไร้ความสามารถ เปรียบเทียบตนเองกับผู้อื่น มองว่า
วันหนึ่งภรรยานายชุ่มชื่นพูดกับสามีว่า“เดินเก็บกิ่งไม้แห้งไปขายเมื่อไหร่จะร่ํารวยสักทีฉันว่า
คู่มือส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมลูกเสือทักษะชีวิตในสถานศึกษา ลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
88
ตนเองมีปมด้อย หวั่นไหวตามคําพูดคนอื่น คู่มือส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมลูกเสือทักษะชีวิตในสถานศึกษา ลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 89
4) การไม่อยู่กับปัจจุบัน วิตกกังวลกับอนาคตที่ยังมาไม่ถึง หรือหมกหมุ่นอยู่กับอดีตที่ผ่าน นะ แทนที่จะเก็บกิ่งไม้ เปลี่ยนเป็นไปตัดต้นไม้น่าจะดีกว่า”
ไปแล้ว และอยากแก้ไขอดีตซึ่งเป็นไปไม่ได้ รุ่งเช้านายชุ่มชื่นจึงออกตัดต้นไม้ที่ขึ้นรอบๆเชิงเขาขณะที่นายชุ่มชื่นกําลังตัดต้นไม้ต้นหนึ่งก็
คิดทางบวก เป็นประเภทที่คิดแล้วนําความสุขมาสู่ตนเอง ได้แก่ มีแม่นกกางเขนตัวหนึ่งบินมาขอร้องไม่ให้ตัดต้นไม้ต้นนั้น..แต่นายชุ่มชื่นไม่สนใจ คงตัดต้นไม้ต่อไป
1) ตั้งความหวัง และคาดการณ์ต่าง ๆ อย่างสอดคล้องกับสภาพความเป็นจริง ทั้งของตนเอง จนได้ไม้กองใหญ่ เมื่อนําไปขายก็ได้เงินมากขึ้นกว่าเดิม
และผู้อื่น ไม่คาดหวังจนเกินความสามารถที่จะทําให้สําเร็จได้ ด้วยความโลภคราวนี้นายชุ่มชื่นจึงเกณฑ์ญาติพี่น้องมาช่วยกันตัดต้นไม้ แต่มีสัตว์ปูาฝูงหนึ่ง
ั
2) ยอมรับจุดดี และจุดที่ต้องแก้ไขของตนเอง อย่างที่เป็น ไม่ตําหนิหรือเปรียบเทียบกับคน มาขอร้องให้เลิกเพราะจะทําลายที่อยู่อาศยและแหล่งอาหารของสัตว์เหล่านั้น นายชุ่มชื่นไม่สนใจ
อื่น เน้นการพัฒนาคุณค่าภายในที่สามารถสร้างให้มีมากขึ้นได้เรื่อย ๆ เช่น ความสามารถทาง ยังคงตัดต้นไม้ต่อไป
สติปัญญา ความมีน้ําใจช่วยเหลือผู้อื่น ความสามารถในการสื่อสารและมีสัมพันธภาพที่ดีกับผู้อื่น ฯลฯ ..โค่น โค่น โค่น ตัด ตัด ตัดไม้ใหญ่ ไม้เล็ก เรามาตัดกัน!!!
มากกว่าการแก้ไขรูปลักษณ์ภายนอก ซึ่งเป็นธรรมชาติที่มีมาของแต่ละบุคคล และแล้วก็ถึงวันที่ธรรมชาติลงโทษเมื่อปูาไม้เหลือแต่ตอไม่มีต้นไม้คอยโอบอุ้มซับน้ําฝน เมื่อ
3) มีสติอยู่กับปัจจุบัน รู้ว่าตนเองทําอะไร เพื่ออะไร คนอื่นไม่รู้ ไม่เข้าใจ ไม่เป็นไร ให้อภัย พายุใหญ่มา ลม และฝนโหมกระหน่ํา น้ําปูาจึงไหลบ่าพัดพาเอาท่อนซุงที่กองไว้มาทับถมหมู่บ้านจน
ั
เพราะเขาไม่รู้ แต่เราต้องรู้จักตนเอง ทําความเข้าใจตนเอง มีแผนสําหรับอนาคต และทําปัจจุบันให้ดี พังพินาศทั้งหมู่บ้านจมอยู่ใต้น้ํา ตัวนายชุ่มชื่นและภรรยาต้องไปอาศยอยู่บนหลังคาบ้าน จึงเพิ่งจะ
ที่สุด เพื่อเป็นรากฐานที่ดีสําหรับอนาคต และไม่ต้องกังวลกับการอยากแก้ไขอดีตซึ่งเป็นไปไม่ได้ สํานึกได้ถึงความผิดพลาดของตนเอง
4) มองปัญหาว่ามีทางแก้ไขเสมอ มองหาว่า “อะไรผิด” ที่ต้องแก้ แทนการมองหาว่า “ใครผิด” เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า การเบียดเบียนและทําลายธรรมชาติ โดยไม่คิดถึงผลกระทบต่อส่วนรวม จะถูก
เพื่อกล่าวโทษ ธรรมชาติลงโทษ
5) มองสิ่งที่เหลืออยู่มากกว่าสิ่งที่ขาดหายไป หรือหาสิ่งตอบแทนจากการสูญเสีย เช่น มอง
ความผิดพลาดเป็นครูสอนไม่ให้ผิดซ้ํา มองการเย้าแหย่จากเพื่อนเป็นการสร้างสัมพันธภาพที่สนิท
สนมต่อกันมากขึ้น
6) มีอารมณ์ขันเช่น มองการล้อของเพื่อนเป็นเรื่องเล่นกันสนุก ๆ ไม่ใส่ใจเอามาเป็นอารมณ ์
เรื่องเล่าที่เป็นประโยชน์
แผนการจัดกิจกรรมลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่(เครื่องหมายลูกเสือชั้นพิเศษ) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
82 คู่มือการจัดกิจกรรมลูกเสือเสริมสร้างทักษะชีวิตประเภทลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่ เครื่องหมายลูกเสือชั้นพิเศษ
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ตัดเท่าไหร่ถึงจะพอ หน่วยที่ 3 การเดินทางส ารวจ
นายชุ่มชื่นอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆแห่งหนึ่งใกล้เชิงเขา ทุกวันเขาจะเก็บกิ่งไม้แห้งจากเชิง แผนการจัดกิจกรรมที่ 9 เรื่อง การเตรียมตัวก่อนส ารวจ เวลา 2 ชั่วโมง
เขาเพื่อนําไปขายให้ชาวบ้านใช้ทําฟืนสําหรับหุงต้ม ฟืนของนายชุ่มชื่นขายดิบขายดีมากเพราะเนื้อ 1.จุดประสงค์การเรียนรู้
ไม้แห้งสนิทจุดง่ายติดง่าย เมื่อได้เงินกลับบ้านเขาก็แบ่งให้ภรรยาไว้ใช้สอยประจําวัน 1.1 ลูกเสือสามารถวางแผนการเดินทางสํารวจได้
คู่มือส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมลูกเสือทักษะชีวิตในสถานศึกษา ลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 89
90 คู่มือส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมลูกเสือทักษะชีวิตในสถานศึกษา ลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
