Page 79 - ไฟล Combine ส.ค.64 (1)_Neat
P. 79

ยุทธนาวีครั้งส�าคัญและใหญ่ที่สุดในสงครามโลกครั้งแรก


                ระหว่างกองเรือ  Grand  Fleet  ของอังกฤษ
                       �
            ภายใต้การนาของ พลเรือเอก John  Jelicoe กับ
            พลเรือโท David  Beaty  ผู้บัญชาการกองเรือลาดตระเวน
            สงคราม ปะทะกับกองเรือ High Sea Fleet ของเยอรมน  ี
                                                      ั
                      �
            ภายใต้การนาของ พลเรือโท Reinhard  Scheer กบ
            พลเรือตรี Franz  Hipper ทางตะวันตกของคาบสมุทร
            Jutland ในทะเลเหนือ เป็นการรบทางเรือที่ส�าคัญที่สุด
            และใหญ่ที่สุดในสงครามโลกครั้งแรก
                                              �
                ผลของการรบอังกฤษเสียเรือ ๑๕๑ ลา เสียทหาร
            กว่า ๖,๐๐๐ คน ฝ่ายเยอรมันเสียเรือ ๙๙ ล�า เสียทหาร     *  ยุทธบริเวณในทะเลเหนือทาความลาบากใจ
                                                                                        �
                                                                                               �
                                        ้
                                        ี
                                      ั
                                               ี
                                ่
            กว่า ๒,๕๐๐ คน แม้กระทงปัจจุบนนยังเป็นท่ถกเถยงกัน   ให้แก่ท้งสองฝ่าย โดยเฉพาะด้านทัศนวิสัย แต่ฝ่าย
                                                   ี
                                ั
                                                                 ั
            ไม่จบว่าฝ่ายใดเป็นผู้ชนะ ฝ่ายอังกฤษมักอ้างว่าพวกเขา  เยอรมันกลับใช้เป็นประโยชน์อีกทางหน่งกล่าวคือ อาศัย
                                                                                         ึ
            แพ้ทางยุทธวิธีแต่ชนะทางยุทธศาสตร์ เพราะหลังจากนั้น   ควันปืนสามารถหลบออกมาจากยุทธบริเวณได้
            ฝ่ายเยอรมันไม่ได้ส่งกองเรือผิวนาออกไปสู้รบกับ      *  HMS Queen Marry และ HMS Indefati-
                                         ้
                                         �
                                        �
                                      �
                                      ้
                       ื
            อังกฤษอีก เน่องจากมีเรือรบผิวนาจานวนน้อยกว่า แต่   gable ถูกยิงจนเกิดระเบิด เน่องจากมีเกราะท่ดาดฟ้าบาง
                                                                                 ื
                                                                                             ี
            ฝ่ายเยอรมันได้ปรับเปล่ยนยุทธศาสตร์ การทาสงคราม  ซ่งอังกฤษยอมรับว่าการออกแบบเรือมีปัญหาควรได้รับ
                               ี
                                                �
                                                            ึ
            เป็นสงครามเรือค้า (gurre de course) ด้วยกองเรือ     การแก้ไข แต่ประวัติศาสตร์ได้ซ้ารอยในสงครามโลกคร้งที  ่
                                                                                                   ั
                                                                                  �
            u boats เป็นหลัก                               ๒ อีก เม่อ HMS Hood เรือประจัญบานท่คนอังกฤษ
                                                                  ื
                                                                                             ี
                ข้อเท็จจริงบางประการ                       ภาคภูมิใจในอานุภาพได้ถูกเรือบิสมาร์คยิงจนเรือระเบิด
                *   เดิมที ในปี ค.ศ.๑๙๑๔ เยอรมนีใช้ยุทธศาสตร์   ในทันทีที่ปะทะกันบริเวณช่องเดนมาร์ก
            ตั้งรับจึงถูกฝ่ายอังกฤษปิดล้อม (Blockade)          *   พลเรือโท  Beaty  ผู้บัญชาการกองเรือ
                *   ต่อมา พลเรือโท Scheer เปล่ยนยุทธศาสตร์   ลาดตระเวนสงครามของอังกฤษ ในเวลาต่อมาได้รับ
                                            ี
            เป็นเชิงรุก และดึงก�าลังรบส่วนหนึ่งของ Grand Fleet   ตาแหน่งแทน Jelicoe บางคนคิดว่าเขาดูน่าจะเป็น Lord
                                                            �
            ไปท�าการยุทธในทะเลเหนือ                        Nelson คนท ๒ ของอังกฤษ ในด้านความกล้าหาญ
                                                                      ี
                                                                      ่
                *   องกฤษมเรอประจญบานททรงอานภาพกว่า        แต่ในการรบคร้งน (รวมท้งการรบท่ดอกเกอร์แบงก์
                                  ั
                     ั
                                         ี
                                                ุ
                           ี
                            ื
                                         ่
                                                                                ั
                                                                                        ี
                                                                          ี
                                                                       ั
                                                                          ้
                                                      ั
            และจานวนมากกว่า โดยเฉพาะเรือประจัญบานช้น       ในป ค.ศ.๑๙๑๕) เขากลบลมเหลวทจะฉวยโอกาสทาลาย
                 �
                                                                                                 �
                                                              ี
                                                                                      ี
                                                                               ้
                                                                                      ่
                                                                             ั
            “Queen Elizabeth” มีความเร็วสูงถึง ๒๕ น็อต     กองเรือลาดตระเวนสงครามของเยอรมัน กระน้นก็ตาม
                                                                                               ั
                *   การควบคุมปืนของเรือรบอังกฤษดีกว่า      ในเวลาต่อมาเขาได้ครองยศจอมพลเรือ และเป็น First
            แต่การปืนของเยอรมันเหนือกว่า ยิงได้แม่นย�ากว่า  Sea Lord (แม่ทัพเรืออังกฤษ) ในเวลาต่อมา
                                                                                    นาวิกศาสตร์   77
                                                                                    ปีที่ ๑๐๔  เล่มที่  ๘ สิงหาคม ๒๕๖๔
   74   75   76   77   78   79   80   81   82   83   84