Page 67 - นาวิกศาสตร์ เดือน กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖
P. 67
๒
พ.ศ.๒๕๓๔ ลักษณะไฟเปนไฟสีขาว ๓ วับ ทุก ๆ ๒๙ ไมล เนื่องจากการเดินทางไป - มา ระหวางฝง
ั
๒๕ วินาที สูง ๑๗ เมตร มองเห็นไดไกล ๑๐ ไมล กบเกาะจวงและความเปนอยูของเจาหนาที่เปนไป
กระโจมไฟพาหุรัตน์ (กระโจมไฟเกาะจวง) ดวยความยากลำบาก พลเรือเอก ชุมพล ปจจุสานนท
ิ
ุ
ในป พ.ศ.๒๔๔๐ ไดมีการสรางประภาคารขึ้น ผูบัญชาการทหารเรอ ในขณะนน จงไดอนมัตให
ึ
ั้
ื
ั
อีกหนงหลงที่เกาะจวงเปนประภาคารที่ตงอยูบน ปรบสถานะของประภาคารเกาะจวง เปนกระโจมไฟ
ั
ั้
ึ่
ั
ั
ุ
ยอดเกาะ มีกำลงสองสวางมากที่สด ในบรรดา เกาะจวง และใหกระโจมไฟชุมพรเขตอุดมศกดิ์
ึ
ั้
ประภาคารที่สรางขึ้นในสยามสมัยนน เห็นไดไกลถง เปนประภาคารชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ตั้งแต วันที่ ๒๙
๒๙ ไมล และยังมีไฟสแดงที่สองไปยังหินฉลาม มีนาคม พ.ศ.๒๕๔๗
ี
มองเห็นไดไกล ๘ ไมล
ื
ิ
บรรดาเรอใหญที่เดนทางจากภาคตะวันออก
ั
ื
หรอภาคตะวันตกของอาวไทยไดอาศยเปนที่หมาย
มุงมายังประภาคารนี้กอน ประภาคารแหงนี้มีชื่อเปน
ทางการวา “พาหุรัตน” ชื่อนี้ตั้งขึ้น เพื่อเฉลิมพระเกียรติ
ั
ี
ู
แดพระเจาลกเธอเจาฟาพาหุรตนมณมัย ในรชกาล
ั
ประภาคารเกาะตะเภาน้อย
เกาะตะเภานอย เปนเกาะที่อยูในความดแล
ู
ของกองทัพเรอ โดยกรมอุทกศาสตร เปนที่ตงของ
ั้
ื
ประภาคารเกาะตะเภานอย โดยมีเจาหนาที่ของ
ื
กรมอุทกศาสตร กองทัพเรอ ปฏบัตหนาที่ตลอด
ิ
ิ
๒๔ ชั่วโมง โดยประภาคารเกาะตะเภานอย เปน
ประภาคารซึ่งมีอายุเกาแกกวารอยป สรางขึ้นเมื่อ
ิ
พ.ศ.๒๔๔๒ เดมเปนประภาคารแบบใชตะเกยง
ี
ี
ี่
นำมันกาด ตอมาไดเปลยนเปนตะเกยงแบบใชกาซ
้
เมื่อป พ.ศ.๒๔๗๐ และเปลยนเปนใชพลงงานแสง
ั
ี่
ิ
อาทิตยเมื่อวันที่ ๒๒ สงหาคม พ.ศ.๒๕๔๐ มี
กระโจมไฟพาหุรัตน ์ ลักษณะเปนกระโจมอิฐหอคอย ทาสีขาว สูง ๑๑ เมตร
ที่ ๕ แตเดมใชนำมันกาดปละประมาณ ๑๕๐ ปบ ตั้งอยูสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ๕๕ เมตร
ิ
้
เพื่อจดไฟ ตอมาเมื่อวันที่ ๑๒ กมภาพันธ มองเห็นไดไกล ๒๐ ไมลทะเล สัญลักษณเปนไฟวับ
ุ
ุ
พ.ศ.๒๕๐๔ ไดเปลี่ยนมาใชระบบกาซอเซทีลีน และ หมูสีขาว ๒ วับ ทุก ๆ ๑๒ วินาที ซึ่งเกาะตะเภานอย
ื่
ื
ี้
ิ
ี่
เปลยนมาใชตะเกยงระบบไฟฟาจากเครองกำเนด นไดทำหนาที่เปนเครองหมายชวยการเดนเรอและ
ี
ิ
ื่
ไฟฟาประจำประภาคาร เมื่อวันที่ ๑ ตลาคม ชวยอำนวยความสะดวกใหกับการเดินเรือในบริเวณ
ุ
พ.ศ.๒๕๑๖ ตะเกียงเปนเลนสหมุน และเปนไฟสีขาว อาวมะขาม จังหวัดภูเก็ต มีความปลอดภัยมาอยาง
๒ วับทุก ๆ ๒๐ วินาที สูง ๑๔๓ เมตร มองเห็นไกล ยาวนาน นอกจากนี้ เกาะตะเภานอย ยังเปนสถานี
๒. เพื่อที่จะแยกไฟสัญญาณที่ส่งออกจากประภาคาร แต่ละแห่งให้แตกต่าง กได้กำหนดให้สัญญาณไฟเป็น วับ - วาบ (Flashing-Occulting) สลับกันตามความประสงค์
็
และมีระยะเวลาระหว่างไฟวับ - วาบ ต่างกัน โดยใช้เครื่องอัตโนมัติ นอกจากนี้ ยังได้ใช้สีของไฟสัญญาณเพื่อกำหนดความแตกต่างของประภาคารแต่ละแห่งอีกด้วย
นาวิกศาสตร ปีที่ ๙๖ เล่มที่ ๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ 45

