Page 51 - นาวิกศาสตร์ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒
P. 51
ั
ี
ึ
กองทัพเรือเป็นหน่วยงานหน่งท่มีการพัฒนา UAV ความม่นคงและเชิงพาณิชย์ ส่งผลให้ยากต่อการจัด
ั
เพ่อตอบสนองความต้องการในการปฏิบติการทางทะเล หมวดหมู่หรือประเภทของ UAV
ื
ี
ึ
ี
และท่เก่ยวข้อง ซ่งเป็นการปฏิบัติการทางทหารท่มีความ อย่างไรก็ตาม มีการกาหนดเกณฑ์การแบ่ง UAV
�
ี
่
ื
ี
ั
ิ
หลากหลาย มความเชอมโยง และตองประสานการปฏบต ิ ในเชิงปฏิบัติงานด้านความม่นคง ๒ ลักษณะ ได้แก่
ั
้
ิ
ั
้
�
กับหน่วยปฏิบัติในทุกมิต ท้งในนา บนบก และทางอากาศ ๑) ความสามารถ และ ๒) ภารกิจ โดยในลักษณะ
ึ
ี
ซ่งเป็นลักษณะการปฏิบัติการท่มีรูปแบบเฉพาะ จึงไม่อาจ ความสามารถจะแบ่งจากรูปแบบทางกายภาพ เช่น
�
ึ
�
้
จะรอคอยหรือพ่งพาเทคโนโลยีสาเร็จรูปจากต่างประเทศ ขนาด นาหนักบรรทุก เวลาและระยะปฏิบัติการ
ซ่งเป็น UAV ท่มีลักษณะไม่ยืดหยุ่นต่อการปรับให้ตรงกับ ความเร็ว ประเภทของระบบขับเคลื่อน เป็นต้น ส�าหรับ
ี
ึ
ี
ั
ั
ี
ความต้องการท่แท้จริง มีอายุการใช้งานส้น เน่องจาก การแบ่งลักษณะตามภารกิจน้น ในบทความน้จะให้
ื
ั
�
ข้อจากัดในการบารุงรักษา และการปิดก้นข้อมูลของผู้ผลิต ความส�าคัญเป็นพิเศษ เพื่อให้สามารถพิจารณาแนวทาง
�
�
ด้วยเหตุดังกล่าว จึงท�าให้การพัฒนา UAV ขึ้นมาใช้เอง การนา UAV ไปประยุกต์ใช้ในภารกิจของกองทัพเรือ
ี
จึงเป็นทางเลือกหน่ง โดยประยุกต์ใช้เทคโนโลยีท่ม ี ในส่วนต่อไปได้ โดยแบ่ง UAV ตามลักษณะของภารกิจ
ึ
การพัฒนาอย่างก้าวกระโดด ร่วมกับเครือข่ายความร่วมมือ ๖ รูปแบบ ดังนี้
๑
แบบได้ผลประโยชน์ร่วมกันจากพันธมิตร ที่ช่วยเติมเต็ม
ซึ่งกันและกันในการพัฒนา ๑) อากาศยานไร้คนขับแบบลาดตระเวนหาข่าว
ี
ี
ดังน้น ในบทความน้จึงมีความสนใจท่รวบรวมข้อมูล (Intelligence, Surveillance, Target Acquisition and
ั
�
ื
�
เพ่อนาเสนอแนวทางการนา UAV ไปใช้ประโยชน์ด้าน Reconnaissance : ISTAR) เป็นการใช้ UAV สาหรับ
�
ื
ั
ความม่นคง และใช้เป็นโจทย์การวิจัยและพัฒนาด้าน รวบรวมข้อมูลของฝ่ายตรงข้าม หรือพ้นท่ส�าคัญ โดยบิน
ี
�
UAV ของกองทัพเรือไทย บนความท้าทายท่ามกลาง รวบรวมข้อมูลสาคัญของฝ่ายตรงข้ามและพิสูจน์ทราบ
ี
ื
ั
�
ึ
โอกาสและข้อจากัดด้านต่าง ๆ เพ่อท่จะมุ่งพัฒนาและ เช่น ท่ต้ง ขนาด และความสามารถของเป้าหมาย ซ่ง
ี
ประยุกต์ใช้ UAV ให้เกิดประโยชน์ต่อกองทัพเรืออย่าง จะเน้นการตรวจการณ์ และลาดตระเวนในพ้นท่เป้าหมาย
ื
ี
ึ
ต่อเน่อง และคาดหวังยกระดับให้เกิดการพ่งพาตนเอง โดยจะต้องมีความสามารถด้านระบบตรวจจับ พิสัยบิน
ื
ี
ั
ิ
ย่งไปกว่าน้นจะขยายผลไปสู่การผลิตในเชิงพาณิชย์ของ และเวลาปฏิบัติการในอากาศ จากน้นนาข้อมูลท่ได้มา
�
ั
ประเทศไทยต่อไป บูรณาการร่วมในกระบวนการ ISTAR ของหน่วย เพ่อ
ื
ส่งข้อมูลหรือช้เป้าพร้อมรายละเอียดให้ส่วนควบคุม
ี
ภารกิจด้านความมั่นคงของ UAV บังคับบัญชาเกิดการตระหนักรู้ในสถานการณ์ และ
ั
ในปัจจุบันเรามีโอกาสบ่อยคร้งท่จะพบเห็นวัตถ ุ ตัดสินใจปฏิบัติการโดยมีความเส่ยงน้อยท่สุด รวมถึง
ี
๒
ี
ี
ื
ึ
ท่บินได้ ท่มักถูกเรียกว่า UAV หรือ โดรน (Drone) ซ่ง ประยุกต์ใช้ในภารกิจอ่น ๆ เช่น การตรวจกระสุนตก
ี
ี
ส่วนใหญ่จะมีความสามารถเพียงแค่การถ่ายภาพ ส�ารวจความเสียหายภายหลังการใช้อาวุธ เป็นต้น
ทางอากาศ หากมองย้อนไปในอดีต UAV มีวิวัฒนาการ
ิ
่
เกดมาในช่วงราว ค.ศ. ๑๙๔๐ เรมแรกมีความสามารถ
ิ
ไม่มากนัก ซึ่งกองทัพสหรัฐอเมริกาพยายามใช้ในภารกิจ
ั
ุ
การสอดแนมและการลาดตระเวน ต่อมาในปัจจบน
ในหลายประเทศได้พัฒนา UAV ให้มีความสามารถ
และนาไปประยุกต์ใช้ในภารกิจท่หลากหลาย ท้งในด้าน
ั
ี
�
ภาพ UAV แบบ ISTAR : Global Hawk และ Dark Star
นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๑๐๒ เล่มที่ ๒ ประจำ�เดือน กุมภ�พันธ์ ๒๕๖๒ 49

