Page 18 - นาวิกศาสตร์ ฉบับเดือนธันวาคม ๒๕๖๔
P. 18
ื
ิ
่
แต่เมอเร่มหารือระหว่างผู้แทนหลายหน่วย กลับมีความเห็น นักบินทหารเรือจะต้องบินเฮลิคอปเตอร์ของพวกเขาโดย
หลายอย่างซึ่งเป็นข้อขัดแย้งกันเอง อาทิเช่น ปราศจาก “จุดสังเกต” ที่อยู่ทางภาคพื้นดิน และจะต้อง
�
ิ
ั
ี
ี
้
ั
ื
�
ิ
นกบนทหารเรือไม่เหมาะสมกับภารกิจน นกบน นาเคร่องลงจอดยังจุดท่กาหนดในเวลากลางคืนอันมืดมิด
ู
ั
่
ี
้
ั
ทหารอากาศมีความชานาญในการบินระยะทางไกลด้วย หลงการฝึกครงแล้วคร้งเล่าผ่านไป ผ้เกยวข้องของ
ั
�
่
�
ี
“เพดานบินตา” ขณะท่นักบินจากกองทัพบกมีความชานาญ หน่วยเดลตา ฟอร์ซ สรุปได้ว่า
�
�
ในการบินในทุกรูปแบบ และสามารถปรับยุทธวิธีได้ นักบินทหารเรือจานวนไม่เกิน ๒ นายเท่าน้นท ่ ี
ั
ี
อย่างหลากหลาย สามารถ “ทาได้” ตามมาตรฐานท่พวกเขาต้องการ
�
แต่ฝ่ายทหารเรืออ้างว่า อากาศยานท่จะนาไปใช้ แต่นนหมายถึงว่าจะต้องใช้เวลาฝึกฝนนกบิน ๒ นาย
�
ี
่
ั
ั
ี
ิ
ในภารกิจนี้เป็นของพวกตน ดังนั้น นักบิน “ทหารเรือ” ท่กล่าวมาให้มากย่งกว่าน้หลายเท่า นอกจากน้ยังมีนักบิน
ี
ี
จึงควรจะได้รับคัดเลือกให้เป็นผู้ปฏิบัติภารกิจดังกล่าว ทหารเรืออีกนายหนึ่งที่ “ปฏิเสธ” การบินเหนือพื้นที่ซึ่ง
�
ี
ี
ในท่สุดท่ประชุมก็ยอมจานนต่อเหตุผลข้างต้น มีการสู้รบ โดยระบุว่าเขาจะบินเฉพาะในภารกิจเหนือ
�
ี
ื
ี
และน่นจึงทาให้นักบินทหารเรือได้รับการคัดเลือก พ้นท่ซ่งม “ความปลอดภัย” สาหรับตนเองอย่างเพียง
ึ
�
ั
โดยพวกเขาถูกส่งตัวไปฝึกบินในระดับตากับหน่วย “เดลตา พอเท่านั้น
�
่
ั
ฟอร์ซ” ในพื้นที่เหนือทะเลทรายแอริโซนา นักบินผู้น้นจึงถูก “คัดออก” และถูกกักบริเวณไว้ใน
จริง ๆ แล้ว พันเอก เบควิท ต้องการใช้นักบินจาก ฐานทัพ เพื่อป้องกันไม่ให้ความลับรั่วไหล แต่การปฏิบัติ
“กองทัพอากาศ” มากกว่า เพราะเขาประทับใจจาก ของพวกเดลตา ฟอร์ซ ซ่งมีลักษณะเหยียดหยาม
ึ
ี
ผลงานการบินอย่างยอดเย่ยมระหว่างปฏิบัติการช่วยเหลือ ดูแคลนต่อนักบินทหารเรือผู้นั้น ท�าให้เพื่อนของพวกเขา
ตัวประกันท่ค่าย “ซอนเทย์” ในสงครามเวียดนาม (การบุก ไม่พอใจ และประท้วงด้วยการขอ “ถอนตัว” จากภารกิจ
ี
�
ี
ั
ประสบความสาเร็จแต่เชลยถูกย้ายออกไปก่อนหน้าน้น เดลตา ฟอร์ซ จึงเหลือนักบินทหารเรือท่ผ่านการฝึก
ึ
เพียงไม่กี่วัน) มาต้งแต่ต้นเพียงนายเดียว ปัญหาข้อขัดแย้งท่เกิดข้น
ี
ั
ื
ี
�
ี
ั
ี
แต่เม่อท่ประชุมมีมติเช่นน้น เบควิทก็ไม่อาจคัดค้านได้ ทาให้ผู้เก่ยวข้องทุกฝ่ายว่งวุ่นในการแก้ปัญหา ในท่สุด
ิ
ี
ตลอดเวลาท่เฝ้าดูการฝึกของนักบินทหารเรือ เบควิท พลโท “ฟิลิปส์ ชัทเตอร์” นายทหารนาวิกโยธิน
รู้สึกไม่สบายใจเพราะเขาเห็นว่านักบินนาวีเหล่าน้นยังม ี ซ่งเป็นหน่งในคณะเสนาธิการร่วมของกองทัพ
ึ
ึ
ั
ี
่
�
ความสามารถ “ตากว่าเกณฑ์” ในการใช้งานท่ซับซ้อน สหรัฐอเมริกาได้เสนอทางออกว่า
และยากล�าบาก ซึ่งเป็นสิ่งที่เดลตา ฟอร์ซ ต้องการ “พวกเดลตา ฟอร์ซ ควรจะใช้นักบินนาวิกโยธิน
ี
ิ
�
ุ
เวลาผ่านไปทกอย่างดาเนนไปตามกระบวนการ ในภารกิจน้”เพราะทหารนาวิกโยธินอยู่นอกเหนือจาก
ของมันไม่ว่าแต่ละคนจะมีความรู้สึกนึกคิดเช่นไร นักบิน กลุ่มท่มีความขัดแย้งกันมาต้งแต่ต้น อีกท้งประวัติการรบ
ี
ั
ั
ี
ทหารเรือเข้ารับการฝึก ๗ นาย แม้ว่าพวกเขาจะม ี ท่ผ่านมานักบินนาวิกโยธินฝีมือดีก็มีอยู่หลายนาย และ
ความมุ่งม่นต้งใจสักเพียงใดก็ตาม แต่ความเคยชิน บางคนเคยได้รับเหรียญกล้าหาญ “เมดัล ออฟ ออนเนอร์”
ั
ั
จากการบิน “เกาะกลุ่ม” ในลักษณะบินตรวจการณ์ (Medal of Honor) มาแล้วด้วยซ�้า
เพื่อค้นหา “ทุ่นระเบิด” ในทะเล ซึ่งแตกต่างจากภารกิจ ดังนั้น เมื่อได้รับการติดต่อจากหน่วยเดลตา ฟอร์ซ
ี
�
้
การบินช่วยเหลือตัวประกันในภารกิจคร้งน ทาให้ผลการฝึก กองทัพนาวิกโยธินจึงส่ง พันเอก “ชัค พิชแมน” เข้าไป
ั
ออกมาไม่น่าพอใจนัก ประสานกับหน่วยเดลตา ฟอร์ซ
ี
เจ้าหน้าท่ของหน่วยเดลตา ฟอร์ซ ยังพบด้วยว่า พันเอก พิชแมน เป็นนักรบเต็มตัว เขาเรียนรู้
�
นักบินทหารเรือส่วนใหญ่ไม่ชานาญการบินเกาะกลุ่ม ความต้องการของพวกเดลตา ฟอร์ซ ได้อย่างรวดเร็ว
ิ
“ชดกน” ในระดบตา ซงเป็น “หวใจหลก” ทต้องการ เขาเข้าใจภารกิจท่รอคอยอยู่ ขณะเดียวกันพวก
ั
่
ึ
�
ั
ี
่
ั
ั
ี
่
�
ี
ี
ิ
ั
เป็นอย่างย่งสาหรับภารกิจคร้งน และท่ยากท่สุดก็คือ เดลตา ฟอร์ซ ก็ประทับใจในความรอบรู้ และการปฏิบัติ
ี
้
นาวิกศาสตร์ 16
ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๔

