Page 47 - นาวิกศาสตร์ เดือน สิงหาคม ๒๕๕๔
P. 47
ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย เพราะประเมินขีดความ ล่มสลายเมื่อพระเจ้าบุเรงนองสวรรคต
สามารถข้าศึกต่ำไป และประเมินขีดความสามารถ จะเห็นได้ว่าสงครามตีเมืองคัง เมืองเล็ก ๆ
ของตนสูงเกินไป ส่วนสมเด็จพระนเรศวรนั้นทรงรบ บนภูเขาที่พระเจ้าหงสาวดีนันทบุเรง เห็นเป็น
ด้วยสติปัญญา บุกเมื่อควรบุก ลุยเมื่อควรลุย จึงชนะ ศึกเล็ก ๆ แต่มิใช่เรื่องเล็ก เพราะผลของสงคราม
ด้วยการสูญเสียกำลังพลน้อย แม่ทัพที่ชนะศึก แม้ในนามของกรุงหงสาวดีจะชนะเอาเมืองคัง
สงคราม โดยที่ฝ่ายตนสูญเสียกำลังพลน้อย กลับมาอยู่ใต้อำนาจได้ เหมือนเดิม แต่ผลตามมา
นักการทหารทั่วโลกเขายกย่องว่าเป็นแม่ทัพที่เก่ง ทั้งในรูปธรรมและนามธรรมมีมากมายเหลือเกิน
กล้าสามารถ สงครามเมืองคัง จึงเป็นดัชนีวัดบารมีหรือศักยภาพ
ศึกตีเมืองคัง จึงเป็นการเปรียบเทียบฝีมือ ของพระเจ้าหงสาวดีนันทบุเรงโดยตรง
ขุนศึกรุ่นหนุ่มทั้ง ๓ พระองค์เป็นอย่างดี ทำให้ การซ้อมใหญ่ของกองทัพกู้ชาติ ของสมเด็จ
แต่ละเมือง แต่ละฝ่ายมองภาพสถานการณ์ของ พระนเรศวร ได้ประโยชน์มหาศาลด้วยประการฉะนี้
เมืองต่าง ๆ ในอุษาคเนย์ในอนาคตได้ราง ๆ และ
ทำให้เจ้าชายหนุ่มทั้ง ๓ พระองค์ที่เคยเป็นเพื่อน ซ้อมย่อย
เล่นสนิทสนมกัน เริ่มกินแหนงแคลงใจกันแต่ กองทัพอยุธยามีโอกาสซ้อมย่อยเป็นระยะ ๆ
นั้นมา มิใช่เพราะแย่งสาวสวยคนเดียวกันเหมือน กับกองทัพกัมพูชา ที่ยกมาตีหัวเมืองต่าง ๆ ของไทย
นิยายน้ำเน่า แต่เพราะการแย่งอำนาจ แข่งบารมีกัน เกือบจะทุกปี เป็นกองทัพบกบ้างกองทัพเรือบ้าง
ซึ่งสำคัญยิ่งกว่า เข้ามาถึงกรุงศรีอยุธยา ๒ ครั้ง ตีเมืองเพชรบุรี
ผลนี้กระทบต่อขวัญทหารลูกแถวและนายกอง ๒ ครั้ง ตีหัวเมืองชายทะเลตะวันออก หัวเมือง
นายหมู่ ของพม่า มอญ เป็นอันมาก จะเห็นได้ว่า ตะวันออกหลายครั้ง ตั้งแต่อยุธยายังไม่ได้ก่อตั้ง
ในศึกสงครามครั้งต่อ ๆ มาที่พม่ากับไทยรบกัน กองทัพกู้ชาติ เป็นการบังคับให้ทหารอยุธยาต้อง
ความรู้สึกว่าสมเด็จพระนเรศวรเก่งกว่าเจ้านายของตน ฝึกเพลงดาบไว้ตลอด มีทั้งฝ่ายอยุธยาแพ้ เช่น
มีผลต่อการรบมาก ทำให้ลูกน้องถอดใจไปด้วย ที่เมืองเพชรบุรีในปี พ.ศ.๒๑๒๔ เพราะกองทัพหลัก
ผลเช่นนี้เคยมีตัวอย่างทันเห็น ที่เสียงกระพรวน ของกรุงศรีอยุธยาไปติดอยู่ที่กรุงหงสาวดี กับ สมเด็จ
ทหารม้าบุเรงนอง ข้าศึกแค่ได้ยินเสียงก็หนีโดย พระนเรศวรและศึกเมืองคัง ได้บทเรียนราคาแพง
ไม่ต้องรบ เพราะแม่ทัพไทยทั้ง ๓ คน ผู้รักษาเมืองเพชรบุรี
ด้านการต่างประเทศ กลุ่ม ๑๙ รัฐเจ้าฟ้าไทยใหญ่ แตกความสามัคคีกัน จึงถูกกัมพูชาสังหารเสียหมด
บางส่วนที่สมเด็จพระนเรศวรเคยผูกไมตรีไว้ เมื่อครั้ง ทั้ง ๓ คน แล้วก็เสียเมือง
อยู่กรุงหงสาวดี เริ่มมีความเชื่อมั่นยิ่งขึ้นว่า จะมี ในช่วงหลังเมื่อกองทัพคนหนุ่ม (กองทัพเตรียม
ส่วนช่วยให้แคว้น/รัฐไทยใหญ่เป็นเอกราชจากอำนาจ กู้ชาติ) ของสมเด็จพระนเรศวรได้ร่วมออกโรงด้วย
พม่าได้ รวมทั้งหัวเมืองประเทศราชอื่น ๆ ก็เริ่ม ผลปรากฏว่าฝ่ายไทยชนะโดยตลอด เช่นในสงคราม
มองหาลู่ทางชักชวนกันแข็งข้อต่อกรุงหงสาวดี เช่น กับกัมพูชาในปี พ.ศ.๒๑๒๕ รายละเอียดดูจากบทที่
พระเจ้าอังวะ ที่มีสาส์นชักชวน เมืองตองอู แปร ๑๐ ศึกละแวก
เชียงใหม่ ร่วมเป็นกบฏต่อกรุงหงสาวดีในอีก ๓ ปี ศึกละแวกเป็นการซ้อมย่อยชนิดดี ทำให้กำลัง
ต่อมาเป็นต้น พลทุกระดับชั้นมีความมั่นใจในตนเอง เพราะขนาด
D.G.E.Hall นักประวัติศาสตร์เอเชียตะวันออก แม่ทัพจากหัวเมืองจัตวาก็ยังชนะทัพกัมพูชาได้
เฉียงใต้ชาวอังกฤษ กล่าวไว้ว่า อาณาจักรหงสาวดี หลังจากปี พ.ศ.๒๑๒๕ เป็นต้นมา กองทัพเตรียม
อันเกรียงไกรของพระเจ้าบุเรงนอง เริ่มส่งเค้า การกู้ชาติของไทย ที่มีสมเด็จพระนเรศวรเป็น
๐46 นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๔ ฉบับที่ ๘ สิงหาคม ๒๕๕๔

