Page 48 - นาวิกศาสตร์ เดือน สิงหาคม ๒๕๕๔
P. 48
แม่ทัพใหญ่จึงพร้อมแล้ว ต่อไปนี้ก็รอจังหวะเวลา ๓ เมือง ก่อกบฏด้วย เรื่องคอขาดบาดตายเช่นนี้
ที่เหมาะสมเท่านั้น มันน่าจะมีอะไรอยู่ในกอไผ่อยู่บ้าง ถึงได้กล้าทำ
- “คน กำลังพล” มีขวัญกำลังใจและฝีมือพร้อม แบบมีหลักฐานทางวัตถุ
- “อาวุธ ยุทโธปกรณ์” พร้อม เมื่ออังวะบังอาจแข็งเมืองเป็นกบฏ พระเจ้า
- “เสบียงอาหาร” พร้อม หงสาวดีนันทบุเรง จึงต้องยกกองทัพใหญ่ไปปราบ
- “ผู้นำทัพ” ยอดเยี่ยม ด้วยตนเอง พระเจ้าอังวะก็เป็นขุนศึกฝีมือดีคนหนึ่ง
ของพระเจ้าบุเรงนอง จึงได้รับความไว้วางใจให้
เมืองอังวะจุดชนวนเวลา ครองเมืองอังวะ เมืองใหญ่สำคัญทางเหนือ คอยคาน
หลังจากเจ้ายุทธภพ พระเจ้าหงสาวดีบุเรงนอง อำนาจแคว้นยูนนานของจีน กับไทยใหญ่ ที่มักจะ
สิ้นพระชนม์ เมื่อปีมะเส็ง เดือน ๑๒ พ.ศ.๒๑๒๔ ดอดมาก่อกวนพม่าตอนเหนืออยู่เสมอ ๆ พระเจ้า
อย่างกระทันหัน เป็นการเปิดกว้างบ่งบอกว่า อำนาจ นันทบุเรงเกณฑ์ทัพหัวเมืองประเทศราชทั้งหมด
ของพม่าหงสาวดีเริ่มถึงดิ่งลงแล้ว เพียงแต่รอเวลา รวมทั้งกองทัพกรุงศรีอยุธยาด้วยไปรุมยำเมืองอังวะ
ว่า เมื่อใดอำนาจของหงสาวดีจะตกลงจนเหมาะที่
อยุธยาจะประกาศเอกราช กองทัพกู้ชาติที่อุตส่าห์ ยิงปืนนัดเดียว ได้นกสองตัว
ซ่องสุมฝึกปรือมาตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๑๑๔ มิให้พระเจ้า การเกณฑ์ทัพกรุงศรีอยุธยาไปร่วมทำศึกปราบ
บุเรงนองรู้ระแคะระคาย ได้รับการฝึกมาอย่างดี เมืองอังวะนั้น พระเจ้านันทบุเรงมิได้หวังจะใช้กำลัง
ได้รับการทดสอบทั้งซ้อมใหญ่ เมื่อปี พ.ศ.๒๑๒๔ กองทัพอยุธยาไปร่วมรบทำศึกอังวะ แต่ต้องการ
ที่เมืองดัง และซ้อมย่อยกับทัพกัมพูชาที่ดงพญากลาง ลวงให้กองทัพอยุธยาออกจากดินแดนมาให้กองทัพ
เมื่อ พ.ศ.๒๑๒๕ จนทุกคนมีความมั่นใจตั้งแต่ พม่า มอญ รุมทำลาย เนื่องจากพระเจ้านันทบุเรง
ลูกแถวถึงแม่ทัพใหญ่ รอแต่เวลาอันเหมาะสม ประมาณสถานการณ์ได้ว่า กรุงศรีอยุธยากำลัง
เท่านั้น เวลาอันเหมาะสม ต้องไม่ใช่กรุงศรีอยุธยา วางแผนแข็งเมือง เป็นกบฏต่อหงสาวดีและใน
เป็นผุ้จุด ถ้าอยุธยาเริ่มก่อน ถูกยำเละแน่ ๆ จังหวะที่เมืองอังวะแข็งเมืองเช่นนี้ จะเป็นจังหวะที่ดี
ที่กรุงศรีอยุธยาจะทำอะไรสักอย่าง พระเจ้านันทบุเรง
อำนาจของรัฐบาลกลางที่กรุงหงสาวดีเริ่มถูก จึงคิดจะชิงความได้เปรียบ ทำลายกองทัพอยุธยา
ท้าทายสั่นคลอน เสียก่อน โดยมอบภารกิจล้อมทำลายกองทัพ
็
้
เมื่อปีมะแม พ.ศ.๒๑๒๖ หลังจากพระเจ้า อยธยาของสมเดจพระนเรศวรใหกบพระมหาอปราชา
ุ
ั
ุ
บุเรงนอง พ่อตาสวรรคตได้ ๒ ปีเศษ พระเจ้าอังวะ โดยให้พระมหาอุปราชาอยู่รักษากรุงหงสาวดี แล้ว
ผู้ลูกเขย ก็ประกาศเอกราช แข็งเมืองเป็นกบฏ วางแผนให้ขุนนางมอญ นำทัพมอญไปล่อทัพสมเด็จ
ไม่ยอมขึ้นกับกรุงหงสาวดี แถมไม่คิดคนเดียว พระนเรศวรมาเข้าพื้นที่ซุ่ม บริเวณด้านตะวันตก
ยังชวนเจ้าเมือง ตองอู แปร และเชียงใหม่ ให้ร่วม ของแม่น้ำสะโตงกับเมืองหงสาวดี โดยวางแผนว่า
แข็งเมืองเป็นกบฏด้วย แต่อีก ๓ เมือง ยังไม่เล่นด้วย ทัพพม่าหงสาวดีจะตีด้านหน้า ให้ทัพมอญของ
กลับส่งเอกสารชวนแข็งเมืองของ พระเจ้าอังวะมาถวาย ๒ พระยามอญตีเข้ามาทางด้านหลัง ถ้าทัพอยุธยา
พระเจ้าหงสาวดีนันทบุเรง เป็นหลักฐานฟ้อง เจ้าเมือง แตกพ่าย แม่น้ำสะโตงก็จะเป็นเครื่องกีดขวางใหญ่
อังวะเป็นเพียงเขย แต่อีก ๓ เจ้าเมือง เป็นเชื้อพระวงศ์ กว่าจะข้ามไปได้ก็คงจะสูญเสียมาก ฝ่ายพม่า
ของบุเรงนองโดยตรง ความใกล้ชิดทางสายเลือด วางแผนกว้าง ๆ ไว้เช่นนี้ โดยตั้งเป้าประสงค์
มันต่างกัน ไม่เข้าใจว่ามีเบื้องหน้าเบื้องหลังอะไร ว่า จะต้องทำลายสมเด็จพระนเรศวรและกองทัพ
อยู่ก่อน พระเจ้าอังวะจึงกล้ามีหนังสือสาส์นไปชวนอีก อยุธยาให้ได้ พระเจ้านันทบุเรงรู้แจ้งแทงตลอดว่า
นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๔ ฉบับที่ ๘ สิงหาคม ๒๕๕๔ ๐47

