Page 144 - ๒๕๐ ปี ตามรอยกองเรือยกพลขึ้นบกสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชจากจันทบุรีสู่อยุธยา
P. 144
เราได้จารึกไว้ในประวัติศาสตร์ครั้งสำาคัญๆ ของการรบ ๔ หรือ ๕ ครั้ง แน่นอนที่สุดคือการบใหญ่ในปี ๒๑๑๒
ำ
ั
ึ
ั
ี
ั
เป็นการเสียกรุงคร้งแรก ซ่งเราจดจาประวัติศาสตร์ในตอนน้นได้อย่างแม่นยาท่สุดและหลังจากน้น ๑๕ ป ี
ำ
สมเด็จพระนเรศวรมหาราชได้กอบกู้อิสรภาพกลับคืนมาได้ และครั้งต่อมาเป็นครั้งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอีกครั้งหนึ่งที่
ั
ำ
พวกเราคงจะระลึกถึงและจดจาภาพการรบวันน้นได้ในปี ๒๑๓๓ สงครามยุทธหัตถีระหว่างพระนเรศวรมหาราช
ี
ื
ั
กับพระมหาอุปราชา โดยท่พม่าได้ยกทัพเข้ามาเพ่อจะตีกรุงศรีอยุธยาอีกคร้ง หลังจากสมเด็จพระนเรศวรฯ
ำ
ี
ได้ครองราชย์แล้ว และได้กระทายุทธหัตถ จนกระท่งสมเด็จพระนเรศวรมหาราชได้สังหารพระมหาอุปราชา
ั
ขาดบนคอช้าง และวีรกรรมอันนั้นยังจารึกจนทุกวันนี้ ในครั้งที่ ๓ เป็นครั้งที่เราบ้านแตกสาแหรกขาดจน
ี
ประเทศชาติเกือบล่มจมในปี ๒๓๑๐ ซ่งเรากาลังจะพูดถึงท่สมเด็จพระเจ้าตากสินฯ ได้ทรงกอบก้เอกราชของชาต ิ
ู
ำ
ึ
ี
ี
ั
ท่กระผมจะกราบเรียนในโอกาสต่อไป และในคร้งสุดท้ายท่พวกเรานักการทหารได้ศึกษาและได้นาเอาหลัก
ำ
การสงครามที่พระองค์ท่านได้ใช้ในสมรภูมิต่างๆ นำามาศึกษากัน ที่พวกเราจำากันได้ว่าศึก ๙ ทัพในปี ๒๓๒๘
ั
รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ท้งหมดเป็นการยุทธระหว่างไทยรบพม่า พม่ารบไทย
เรานำามาสั่งสอนเป็นบทเรียนจากการรบและเอาหลักการสงครามต่างๆ มาถ่ายทอดสู่กันในโรงเรียนเสนาธิการ
ู
ำ
ู
ทหารบกและโรงเรียนเหล่าต่างๆ ของกองทัพบก กระผมจะนาส่ในแผนการก้ชาติตลอดจนพระปรีชาสามารถของ
สมเด็จพระเจ้าตากสินฯ ที่เราจะพูดกันในวันเทิดพระเกียรติของพระองค์ท่านในวันนี้ จากที่อาจารย์ทองต่อ
ได้พูดถึงกรุงศรีอยุธยาและพูดถึงความเจริญไพบูลย์ มาสู่ความเสื่อมกระทั่งกรุงแตก จะเห็นว่าในประวัติศาสตร์
ี
้
ี
ั
้
ี
ี
ได้จารึกไวว่าในวันกรุงแตกนน วันท่ ๗ เมษายน ๒๓๑๐ เป็นวันท่มแต่ความโศกสลด มีแต่ความเศร้า มแต่แสงเพลิง
มีแต่ความสูญเสีย ปราสาท ราชวัง อาคารต่างๆ วัดวาอาราม สูญสิ้นทั้งหมด และทัพพม่าที่เข้ามาครั้งนี้ผิดกับ
ทัพพม่าเมื่อปี ๒๑๑๒ ซี่งในปี ๒๑๑๒ เป็นทัพกษัตริย์ที่เข้ามาเพื่อแผ่อาณาเขต เมื่อตีกรุงศรีอยุธยาแตกครั้งที่ ๑
ก็กลับไปอย่างกษัตริย์และมิได้ทำาลายให้ล่มจมเหมือนปี ๒๓๑๐ นี้ ในประวัติศาสตร์ได้จารึกถึงการสูญเสีย
ประชากรอย่างยิ่งใหญ่ เพราะพม่าในครั้งนี้พระเจ้ากรุงอังวะได้ตีเรื่อยมาตลอดหัวเมืองเล็กหัวเมืองน้อย ได้เผา
ได้ทำาลาย พงศาวดารพม่าได้เขียนไว้ตอนหลังว่าคงจะเป็นที่เข้าใจในระหว่างพม่าว่าในปี ๒๑๑๒ หลังจาก
เสียกรุงศรีอยุธยาคร้งท่ ๑ และพม่าได้กลับไปอย่างกษัตริย์ และต่อจากน้นเพียง ๑๕ ปี สมเด็จพระนเรศวรมหาราช
ั
ี
ั
ั
ู
ได้ทรงกอบก้เอกราชและนาไปส่สงครามยุทธหัตถีจนพม่าต้องสูญเสียคร้งใหญ่ ในคร้งน้พม่าได้ออกคาส่งอย่างแน่ชัดว่า
ี
ั
ู
ั
ำ
ำ
่
ี
้
่
ี
้
ั
ใหทาลายใหหมดสนไปเลย ใหกรงศรอยุธยาปนปแหลกลาญไปใหหมด เพราะฉะนนการทสมเดจพระเจาตากสนฯ
ิ
็
้
ำ
้
ี
้
ุ
้
้
้
ิ
ั
ึ
ี
ได้ทรงวางแผนก้ชาติซ่งเป็นท่น่าจะต้องศึกษาเป็นอย่างย่ง เพราะพระองค์ได้ทรงวางแผนต้งแต่กรุงศรีอยุธยา
ู
ิ
ยังไม่แตก ๓ เดือนก่อนหน้ากรุงแตกนั้น ในวันที่ ๓ มกราคม ๒๓๐๙ พระองค์ท่านได้รวบรวมสมัครพรรคพวก
ทหารกล้าเพียง ๕๐๐ คน ตีฝ่าออกมาจากค่ายวัดพิชัยมุ่งหน้าไปทางตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อที่จะไปรวบรวม
ประชาชนที่จะนำามากู้ชาติบ้านเมือง เพราะพระองค์ได้วางแผนยุทธศาสตร์ของชาติไว้หมดว่าหมดโอกาสอย่าง
ี
ำ
ี
ั
แน่นอนท่จะป้องกันกรุงศรีอยุธยา เพราะฉะน้นพระองค์จะต้องออกไปกอบก้เอกราช โดยท่ตีฝ่าออกไปและทาให ้
ู
เกิดวีรกรรมครั้งที่ ๑ ของสมเด็จพระเจ้าตากสินฯ หลังจากพระองค์ตีฝ่าวงล้อมออกมาด้วยทัพพม่าและไพร่พล
ึ
เพียง ๕๐๐ ในวันร่งข้นพม่าได้ตามพระองค์ไปจนทันกันท่บ้านพรานนกเกือบถึงแถวๆ นครนายก เพราะพระองค ์
ี
ุ
ม่งหน้าไปทางตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงศรีอยุธยา ได้เกิดวีรกรรมคร้งใหญ่พระองค์ได้รบบนม้าและได้กาหนด
ำ
ุ
ั
เอาวันที่ ๔ มกราคมของทุกปี เป็นวันทหารม้าของกองทัพไทยเรา หลังจากนั้นพระองค์ท่านได้เดินทัพไปสู่
ู
ตะวันออกเฉียงใต้เพ่อไปวางแผนท่จะกอบก้ชาติและไปรวบรวมไพร่พลได้เรียบร้อยในเดือนมิถุนายนน้นเอง
ี
ั
ื
พระองค์ได้ใช้แผนการดำาเนินกลยุทธและได้ใช้ความชาญฉลาดปรีชาสามารถเป็นอย่างยิ่ง ในทางทหารเราถือว่า
การรู้ข้าศึกนั้นเป็นสิ่งสำาคัญที่สุด เมื่อพระองค์ได้รวบรวมไพร่พลกับรวมพลขั้นสุดท้ายที่เมืองจันท์ ตีเมืองจันท์
ู
ั
ได้รวบรวมสมัครพรรคพวกได้ตอนน้นก็ตกในราวเดือนมิถุนา พระองค์ท่านร้ดินฟ้าอากาศว่าคล่นลมกาลังแรง
ื
ำ
142

