Page 149 - ๒๕๐ ปี ตามรอยกองเรือยกพลขึ้นบกสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชจากจันทบุรีสู่อยุธยา
P. 149
ึ
ี
ึ
ี
ำ
ำ
ั
ั
คร้งสุดท้ายท่จันทบุรี ซ่งท่น่นพระองค์ได้เรือสาเภาของพวกจีนเป็นจานวนมาก และพระองค์ทรงให้ต่อเรือข้นด้วย
ใช้เวลาในการต่อเรือ ๓ เดือน พระองค์ทรงรวบรวมได้เรือรบถึง ๑๐๐ ลำา ชาวเมืองจันทบุรีก็เป็นชาวทะเลคงจะ
หาลูกเรือได้ไม่ยากนัก ก็เป็นเหตุผลอีกอันหนึ่งที่พระองค์ท่านเลือกเดินทางมาทางทิศตะวันออกเฉียงใต้
พิธีกร : ชาวดอนก็กลายเป็นชาวทะเลด้วยประการฉะน้ พม่าท่เห็นจะไม่มีทหารเรือหรือกองทัพเรือมาด้วยกระมัง
ี
ี
ื
รองเสนาธิการทหารเรือ : กระผมคิดว่าถ้าพม่าจะมีเรือใช้ คงจะหาเรือในพ้นท่ คงไม่ได้แล่นเรือมาจากประเทศ
ี
พม่า จะใช้เรือก็ต่อเมื่อฤดูน้าหลาก อย่างที่ท่านรองเสนาธิการทหารบกว่าไว้ ก็คงมีเรือเล็กๆ จำานวนไม่มากนัก
ำ
ี
ื
ี
ำ
ั
ในการท่จะเดินทางไปเพ่อติดต่อประสานกันหรือว่าขนเสบียงอาหารเท่าน้น เป็นท่แน่นอนว่าพม่าไม่มีกาลังทางเรือ
ทีนี้ที่อยากเรียนให้ทราบต่อไปถึงจุดเด่นของกำาลังทางเรือที่พระองค์ท่านซึ่งเป็นทหารบกในสมัย ๒๐๐ ปีแล้ว
ี
ำ
ำ
ำ
ึ
มองเห็นความสาคัญจุดเด่นของกาลังทางเรือ คือความคล่องตัวของกาลังทางเรือ ซ่งเราเรียกว่า โมบิลลิต้ (Mobility)
ในภาษาฝรั่ง คำาว่า โมบิลลิตี้พระองค์ได้เห็นตั้งแต่สมัย ๒๐๐ ปีแล้ว และเดี๋ยวนี้ก็ยังมีความสำาคัญอยู่ในการรบ
ทางเรือในปัจจุบัน นี่เป็นเหตุผลอีกประการหนึ่งที่ทหารเรือได้ยกย่องท่านว่าพระองค์ทรงพระปรีชาสามารถ
ในการที่จะเป็นจอมทัพเรือ
พิธีกร : อีกสักครู่จะกลับมากราบเรียนถามถึงความคล่องตัวทางเรืออย่างที่ว่า อันนี้เป็นการวิเคราะห์ของทหารเรือ
ว่าเหตุใดจึงเสด็จออกไปทิศตะวันออก ไม่ทราบว่านักประวัติศาสตร์อย่างท่านอาจารย์ทองต่อ มีความเห็นว่า
อย่างไรกรณีที่เสด็จออกไปทางทิศตะวันออกแทนที่จะขึ้นเหนือล่องใต้ไปอีสาน
ี
อาจารย์ทองต่อ : ความเห็นก็คงไม่ใช่ของผม แต่เห็นท่านท่ศึกษากันมาหลายๆ ท่าน ก็มีแนวโน้มว่าการท่ออกไป
ี
ทางปากอ่าวหรือทางตะวันออกนั้นเป็นการคล่องตัว และสามารถที่จะปรับตัวได้ในระยะทางใกล้ไกล คือถ้าหาก
สามารถรวบรวมกำาลังผู้คนได้ในระยะใกล้ เช่นเมืองชล ก็สามารถจะกลับเข้ามาตีกองกำาลังทางกรุงศรีอยุธยาได้
ถ้าหากว่ากำาลังไม่พอก็ขยับออกไปทางเมืองจันท์ เมืองตราด เหล่านี้ก็มีความคล่องตัวในการที่จะปรับตัว ในการ
ที่จะสู้รบ เข้าใจว่าสาเหตุใหญ่เป็นอย่างนี้
พิธีกร : ทรงมุ่งหมายตั้งแต่เสด็จออกจากกรุงศรีอยุธยาแล้วหรือเปล่าว่า ปลายทางอยู่ที่เมืองจันท์ หรือว่าตีไป
รวบรวมไปว่าจะได้ไพร่พลกันที่ไหน อย่างไร
อาจารย์ทองต่อ : เท่าที่หลักฐานที่ปรากฏ ขั้นต้นนั้นทรงไปปักหลักที่ระยองเป็นจุดสำาคัญ จุดใหญ่ที่ระยองใน
ขณะนั้นก็ไปก่อนกรุงศรีอยุธยาแตกประมาณ ๓ เดือนเศษ และยังคงวางตัวเหมือนเป็นเจ้าเมืองเอก คือไม่ได้
ั
ู
ั
ั
ี
ื
สถาปนาตัวเองเป็นพระเจ้าแผ่นดินหรือเป็นอิสระอะไรเพ่อเป็นการรักษาตัวเท่าน้น ไปต้งม่นอย่ท่เมืองระยอง
แต่ว่าตอนนั้นพวกบริวารทหารของท่านก็เริ่มเรียก เจ้าตาก เรียกเจ้าตากตั้งแต่ครั้งนั้นมา
พิธีกร : ครั้นแล้วก็ค่อยๆ ขยับไปๆ จนถึงเมืองจันท์ ระยะนั้นที่เรารู้จักกันว่าให้ทุบหม้อข้าวให้แตกแล้วก็ไป
กินข้าวกันที่เมืองจันท์ ก็เกิดขึ้นตอนนั้นเอง
อาจารย์ทองต่อ : นี่ก็เป็นการแสดงถึงพระราชอัธยาศัยเด็ดเดี่ยวอย่างยิ่งว่า ในการที่จะตีเมืองจันทบุรีนั้นให้
ั
ุ
ทหารกินอย่อย่างเต็มท่ แล้วก็ทุบหม้อข้าว ทุบอุปกรณ์การครัวท้งหมด แล้วร่งข้นม่งตีเมืองจันท์ให้แตก ถ้าหากว่า
ู
ี
ุ
ึ
ตีไม่ได้ก็แปลว่าทุกคนหมดเสบียง ทุกคนพร้อมที่จะตาย เป็นการแสดงถึงความเข้มแข็งของท่านอย่างยิ่ง
พิธีกร : ท่านรองเสนาธิการทหารบกครับ แผนทุบหม้อข้าวแล้วไปกินข้าวเมืองจันท์เด๋ยวน้ใช้กันอย่ได้หรือไม่ครับ
ู
ี
ี
147

