Page 147 - ๒๕๐ ปี ตามรอยกองเรือยกพลขึ้นบกสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชจากจันทบุรีสู่อยุธยา
P. 147
อาจกล่าวได้ว่าสมเด็จพระเจ้าตากสิน ฯ เป็นชาวดอนไม่ได้เป็นชาวเรือจึงเป็นที่น่าคิดว่าเหตุใดพระองค์จึงทรง
พระปรีชาสามารถนำาทัพไปในทะเลเป็นจำานวนมาก ซึ่งจะเรียนให้ทราบต่อไป
ำ
พิธีกร : ถ้าท่านจะกรุณาขยายความว่า มีเหตุการณ์อะไรที่แสดงให้เห็นถึงพระปรีชาสามารถในการรบทางน้า
แม้ว่าจะเป็นชาวดอนอย่างที่ว่า
ู
ี
รองเสนาธิการทหารเรือ : จุดอย่ท่ว่าพระองค์เป็นชาวดอน แต่พระองค์ทรงพระปรีชาสามารถเล็งเห็นความสำาคัญ
ี
ำ
ี
ี
ำ
และจุดเด่นของคุณลักษณะของทหารเรือ ในการท่จะทาศึกในลักษณะท่ได้เปรียบ และได้นาเอาคุณลักษณะท่ได ้
ึ
ั
ี
ั
ั
ิ
เปรียบน้นมาทรงใช้ในการกอบก้เอกราชคร้งน้ ย่งกว่าน้นพระองค์ได้ปราบดาภิเษกข้นเป็นกษัตริย์แล้ว พระองค ์
ู
ยังต้องทำาการรบอีกมากมายหลายครั้ง ในการรบดังกล่าวนั้นเพื่อรวบรวมคนไทยเข้าเป็นประเทศที่เป็นปึกแผ่น
ำ
และเพ่อท่จะขยายอาณาจักรไทยให้กว้างใหญ่ไพศาล พระองค์ต้องทาการรบไม่น้อยกว่า ๓๐ คร้ง และในจานวน
ื
ี
ำ
ั
การรบที่พระองค์กระทำานี้มีอยู่ ๑๙ ครั้งที่เป็นการรบทางบก ส่วนอีก ๑๑ ครั้งเป็นการรบทางเรือ และในการ
ำ
รบทางเรือแต่ละครั้งนั้นไม่ใช่พระองค์จะทำาการรบแต่ในแม่น้า ท่านได้ทำาการรบในทะเลและได้นำากำาลังทัพเรือ
ต่อสู้กับข้าศึกทางทะเล จะเห็นได้จากเหตุการณ์ในปี พ.ศ.๒๓๑๔ พระองค์ได้กรีฑาทัพเรือซึ่งมีเรือรบ ๒๐๐ ลำา
ำ
ำ
เรือเดินทะเลจานวน ๑๐๐ ลา กาลังพลถึง ๑๕,๐๐๐ คน จากธนบุรีไปรบกับเขมร พระองค์ได้ไปตีเมืองกัมปงโสม
ำ
ึ
ึ
เมืองฮาเตียน (พุทไธมาศ) พุทไธเพชร จนถึงกรุงพนมเปญ และได้รับชัยชนะอย่างเด็ดขาดกลับมา ซ่งเป็นส่วนหน่ง
ที่แสดงให้เห็นว่าพระองค์ทรงพระปรีชาสามารถในการเป็นทหารเรือ
ี
ี
ี
ำ
ิ
พิธีกร : สงสัยว่าท่ว่าพระองค์เป็นชาวดอน แต่ร้พลกาลังของพระองค์ท่เพ่มจาก ๕๐๐ เป็น ๕,๐๐๐, ๕๐,๐๐๐
ึ
ำ
ำ
ำ
ก็ดี ท่เพ่มจานวนข้นอาจจะเป็นชาวดอนด้วย และในการท่จะนาคนเป็นจานวนมากมาปฏิบัติการยุทธทางลาน้า
ี
ำ
ี
ำ
ิ
ี
ำ
ำ
อย่างท่ท่านรองเสนาธิการทหารบกได้ว่ามา จะทาอย่างไรถึงจะสามารถควบคุม และบังคับบัญชาคนจานวนมาก
ให้ไปสู่ความมุ่งหมายเดียวกันได้ คือสามารถปฏิบัติการรบทางน้าได้ คงจะไม่มีเวลาฝึกหรือมีโรงเรียนเสนาธิการ
ำ
ในเวลานั้น
่
ื
ำ
ู
ี
่
่
ั
ั
ี
รองเสนาธิการทหารเรือ : นเปนเรองทนาสงสยอย่ อย่างไรก็ตามสาหรับหลักฐานน้นมีอย่อย่างชัดเจนในพงศาวดาร
่
ู
็
ี
ั
และมีหลักฐานยืนยันท่แสดงให้เห็นว่าพระองค์มีพระปรีชาสามารถในกิจการทหารเรือ ท้งในด้านการเดินเรือและ
ด้านการยุทธวิธีรบ จะขอยกตัวอย่างที่มีไว้อย่างชัดเจนว่าพระปรีชาสามารถของพระองค์ในด้านการเดินเรือนั้น
จะเห็นได้จากพระองค์ท่านได้ออกหมายแจ้งทหารทั้งปวงในตอนที่พระองค์ยาตราทัพกับจากศึกเขมร
“ว่าให้นายทัพนายกองเรือกาชับว่ากล่าวให้เป็นหมวดเป็นกอง อย่าให้พลัดหมวดพลัดกอง มีราชการ
ำ
จะได้หากันได้สะดวก และในฤดูนี้เป็นเทศกาลลมว่าวพัดต้านข้างเรือ ลมตะวันออกพัดข้างเรือ ห้ามอย่า
ให้ออกไปไกลฝั่ง ถ้าจะข้ามปากอ่าวลมพัดข้างเรือนัก คลื่นใหญ่จะไปไม่ได้ ให้หยุดอยู่จนกว่าคลื่นลมจะ
ี
็
้
ื
่
สงบราบกอนจงไปใหไดอาวอาศยถาเหนวาลมเปลาโปรงดกใหไปทงกลางวนและเวลากลางคน อยาให ้
่
ั
้
็
้
่
้
้
ึ
ั
่
่
ั
ึ
้
หยดนงอย่ท่ใดท่หนง และใหทัพนายกองกาชบว่ากลาวกนอยาใหเป็นเหตุการณ์อย่างหน่งอย่างใดได ข้อหนง
่
ั
่
ี
ี
้
้
ึ
ำ
ู
ั
ึ
่
ุ
่
ิ
่
ลูกเรือนั้นให้ดูโคมนายเรือเป็นสำาคัญ ให้ไปเป็นหมวดเป็นกองตามที่รับสั่ง”
ื
ี
น่แหละจากหมายรับส่งอันน้จะเห็นได้ชัดเจนว่าพระองค์มีความชัดเจนในเร่องของลมฟ้าอากาศ ลักษณะ
ั
ี
คลื่นลมของทะเลในฤดูกาลต่างๆ รู้เรื่องเกี่ยวกับการจัดการรักษารูปขบวนของเรือให้เป็นหมวดเป็นกอง เพื่อ
ั
์
ั
ี
่
ำ
ใหเกดการรวมกาลงและสามารถทจะส่งการอะไรได้สะดวกและใช้ได้ทนทวงท นอกจากนนพระองคยังทรงม ี
้
ิ
ี
ั
่
ั
้
พระปรีชาสามารถร้ในเร่องสัญญาณของเรือในเวลาค่าคืน ให้สังเกตโคมของนายหมวดนายกองเหล่าน้เป็นต้น อัน
ื
ำ
ี
ู
145

