Page 152 - ๒๕๐ ปี ตามรอยกองเรือยกพลขึ้นบกสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชจากจันทบุรีสู่อยุธยา
P. 152
ก๊กอื่นๆ มาก เพราะว่าก๊กอื่นๆ นั้นเขาเป็นเจ้าเมือง เป็นเจ้าของพื้นที่ มีบริษัท มีบริวาร มีบารมีสะสมอยู่นานแล้ว
ื
้
่
ั
ี
์
ู
้
่
ั
้
่
้
สวนพระองคนนเร่มตนดวยตนทุนจากมอเปลาจากเลขศนย์เลยเพราะฉะนนทรงพยายามทจะรวมผนกความ
ึ
ิ
้
เป็นเอกภาพของชาติ และในการรวมความเป็นเอกภาพของชาตินี้มีประเด็นจะเรียนเป็นข้อสังเกตว่า ไม่ได้ทรง
ถือว่าบุคคลเหล่านั้นเป็นศัตรูกับพระองค์ เช่นว่า ทรงไปปราบเจ้าเมืองนครศรีธรรมราช เมื่อจับตัวได้บรรดา
ลูกขุนบรรดาทหารท้งหลายเห็นควรท่จะสาเร็จโทษเจ้านครฯ เสีย ท่านก็บอกว่าเขาไม่ได้มาเป็นศัตรูอะไรกับเรา
ี
ั
ำ
ำ
เพียงแต่ว่าเขาไม่ยอมอ่อนน้อมเพราะไม่แน่ใจว่าใครจะมีกาลังเหนือกว่ากัน ถ้าหากเราปราบเขาได้ก็ยอมลงเรา
ี
ำ
เพราะฉะน้นก็ไม่มีการโกรธเคืองอาฆาตอะไร ถือว่าเป็นคนไทยด้วยกัน ทรงชุบเล้ยงเจ้านครฯ นาเข้ามารับราชการ
ั
ใกล้ชิดอย่ในกรุงธนบุร ประเด็นท่สาคัญการสร้างเมืองหลวงขณะน้นประชามติของประชาชนไทยยังผูกพัน
ำ
ี
ั
ู
ี
กับพระนครศรีอยุธยาเป็นอย่างมาก พระนครศรีอยุธยานั้นเป็นเมืองหลวงของไทยถึง ๔๑๗ ปี ติดต่อกัน
เรามีความฝังใจ ภูมิใจ มีความรักในเมืองหลวงอันนี้มาก แต่เป็นไปไม่ได้ที่จะรักษาพระนครศรีอยุธยาไว้ เพราะมี
่
็
ั
ั
ุ
ี
้
ั
ำ
ิ
ี
่
ี
่
ี
ิ
บรเวณทกวางขวางใหญเหลือเกนกาลงพลของพระองค์ไม่มพอทจะรกษา เพราะฉะน้นกตองถอยมาท่กรงธนบุร ี
้
็
ึ
็
ื
่
ี
ิ
ิ
้
ี
ี
้
้
่
ั
แตการถอยมาธนบรนน แนนอนเปนการฝนประชามต เพราะฉะนนกตองทรงมกลวธซงในพงศาวดารบอกวาทรง
ุ
่
ั
่
พระสุบิน คือวันที่เสด็จไปกรุงศรีอยุธยาทรงช้างไปทอดพระเนตรบริเวณรอบๆ เห็นความปรักหักพัง เศร้าสลด
เสียใจมาก กลางคืนนั้นก็ทรงพระสุบินว่า เจ้านายเก่าๆ มาขับไล่ไม่ให้อยู่ เพราฉะนั้นเราถอยมาตั้งหลักที่เมือง
ธนบุรีศรีมหาสมุทร์ ซึ่งเป็นเมืองเล็กๆ ที่พอกับกำาลังของพระองค์อย่างหนึ่ง และที่สำาคัญคือเป็นเมืองหน้าด่าน
ำ
ี
ำ
ท่จะสกัดไม่ให้กองกาลังจากทางฝ่ายเหนือออกทะเลได้ และสกัดกองกาลังฝ่ายทะเลท่จะข้นเหนือได้ และมีความ
ึ
ี
คล่องตัวในการที่จะถอยไปทางหัวเมืองชายทะเลต่างๆ ถ้ามีความจำาเป็น แต่อย่างไรก็ตามสถาปนากรุงธนบุรี
นั้นก็เป็นเรื่องชั่วคราว เพราะไม่มีการตั้งหลักเมือง ธนบุรีนี่ไม่มีหลักเมือง เพราะการสร้างหลักเมืองนั้นย่อม
ึ
ื
ู
ี
ี
ี
หมายความว่าปักหลักปักฐานกันว่าจะอย่กันท่น่เป็นหลักฐาน ทีน้เม่อทรงข้นครองราชย์เป็นพระเจ้าแผ่นดินแล้ว
พระราชภารกิจสำาคัญ คือต้องทรงเอื้ออาทรต่อประชาชน เรื่องที่ยิ่งใหญ่ที่สุดก็คือเรื่องข้าวยากหมากแพง เพราะ
ในสมัยนั้นเรารบติดต่อกันนานไม่สามารถที่จะทำานา ไม่สามารถที่จะหาเสบียงอาหารอะไรได้ มีพระราชทรัพย์
เท่าไรขนไปซื้อข้าวเปลือกข้าวสารมาแจกประชาชน เป็นเรื่องใหญ่เรื่องสำาคัญเหลือเกิน กรุงธนบุรีนั้นเป็นเมืองสวน
มาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา แต่ว่าข้าวสำาคัญกว่าผลไม้ จึงให้โค่นต้นไม้ โค่นสวน แปลงสวนเป็นนา แล้วใช้
กองกำาลังทหารระดมทำานา เพื่อที่จะมีเสบียงเลี้ยงประชาชน และเพื่อในการต่อสู้ เพราะฉะนั้นนอกจากได้ทรง
ู
ิ
ิ
ี
ิ
ี
ู
ู
ื
ต่อส้ทางด้านการสงครามแล้ว ยังทรงต่อส้เร่องท่ย่งใหญ่ท่สุดคือด้านเศรษฐกิจ ทรงต่อส้ย่งใหญ่มาก ได้เร่มมีการค้า
ำ
ติดต่อกับทางเมืองจีน เมืองทางฝ่งตะวันตกบ้าง ก็เร่มท่จะมีฐานะฟ้นฟูข้นมาตามลาดับ ในแง่ของการศึกสงคราม
ื
ั
ี
ึ
ิ
นั้นเมื่อเสวยราชย์แล้วก็ยังทรงเป็นแม่ทัพ ทรงเป็นแม่ทัพนำาทหารทั้งหลายออกรบด้วยพระองค์เองถึง ๑๐ ครั้ง
ั
ั
ั
ั
และทรงมอบหมายให้นายทหารช้นผ้ใหญ่ออกไปปฏิบัติการอีก ๗ คร้ง เพราะฉะน้นในพระชนม์ชีพของพระองค์น้น
ู
เรียกว่านอนกลางดินกินกลางทราย พบกับเหตุการณ์ต่างๆ อุบัติเหตุบ้าง และการต่อสู้ต่างๆ แม้กระทั่งในการ
สู้ศึกทางเชียงใหม่ถอยกลับมาทางเมืองตาก เพื่อรับกำาลังพม่าที่จะมาสกัดเข้าเมืองตาก เสด็จโดยเรือก็มีการรบ
ำ
ู
ิ
ล่มในแก่งต้องทรงว่ายน้าข้นมาบนตล่งแล้วเดินด้วยพระบาทกลับมายังค่าย ทรงต่อส้แสนสาหัสสากรรจ์มาก
ึ
เพราะฉะนั้นคิดว่าชาติไทยเราเป็นหนี้พระราชกรณียกิจของสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีเป็นอย่างยิ่ง
พิธีกร : ครับ ขอบพระคุณมากครับ ผมฟังท่านรองเสนาธิการทหารบก ท่านรองเสนาธิการทหารเรือ และ
ท่านอาจารย์ทองต่อ กล้วยไม้ ณ อยุธยา ว่ามาอย่างนี้แล้วรู้สึกรักพระเจ้ากรุงธนบุรีขึ้นอีกอักโข และที่สำาคัญ
ั
ึ
คือรักประเทศชาติข้นอีกมาก เพราะเราได้เห็นบรรพบุรุษของเรา บรรพกษัตริย์ของเราน้นได้สละชีวิตสละ
ู
้
ั
อะไรมากมายขนาดไหน กว่าจะสร้างบ้านสร้างเมืองกว่าจะกอบก้อิสรภาพมาได จนกระท่งเป็นแผ่นดิน
150

