Page 25 - หนังสือประวัติศาสตร์ชาติไทย ม.ปลาย
P. 25

15



                                1.3 พระมหากษัตริย
                                ประเทศไทยมีพระมหากษัตริยปกครองประเทศสืบเนื่องมากวา 700 ป ตั้งแตสมย
                                                                                                
                                                                                                         ั
                                                                                       ั
                                                                                  
                  สุโขทัย อยุธยา ธนบุรี และรัตนโกสินทร การปกครองโดยระบบกษัตริยเปนวฒนธรรมทไทยรับมา
                                                                                                 ี่
                  จากอินเดีย พรอมกับการรับวัฒนธรรมความเชื่อทางศาสนา โดยไดผสมผสานแนวคิดหลัก 3 ประการ
                                                                  ี่
                                                            ิ
                                                                      
                                                                                          ุ
                                                                                     
                                                                              
                  เขาดวยกัน คือ แนวคิดในศาสนาพราหมณ - ฮนดู ทเชื่อวากษัตริยทรงเปนสมมติเทพ แนวคิดใน
                  พุทธศาสนาที่วา พระมหากษัตริยทรงมีสถานะเปรียบประดุจพระพุทธเจา ทรงเปนจักรพรรดิราช
                  หรือธรรมราชา  ทกอปรดวยราชธรรมหลายประการ  อาท  ทศพิธราชธรรม  และจักรวรรดิวัตร
                                                                        ิ
                                   ี่
                  12 ประการ แนวคิดทั้งสองประการดังกลาวนี้ อยูบนพื้นฐานของแนวคิดประการทสาม คือ การปกครอง
                                                                                       ี่
                  แบบพอปกครองลูก ดังปรากฏมาตั้งแตสมัยสุโขทัย ดวยเหตุนี้จึงทําใหการปกครองโดยระบบกษัตริย 
                  ของไทย มีความเปนเอกลักษณเฉพาะตัวแตกตางจากประเทศอื่น (มูลนิธิสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ
                  สยามบรมราชกุมารี, 2554 : พระราชนิพนธคํานํา)
                                                     ิ
                                ตามอนุสัญญามอนเตวเดโอวาดวยสิทธและหนาที่ของรัฐ (The  Montevideo
                                                           
                                                                     ิ
                  Convention on the Rights and Duties of State) ค.ศ. 1393 มาตรา 1 ไดกลาวถึงองคประกอบของรัฐ
                                                                                                   
                  เพื่อวัตถุประสงคในกฎหมายระหวางประเทศวา รัฐประกอบดวย ประชากรที่อยูรวมกันอยางถาวร
                                       
                  ดินแดนทกําหนดไดอยางแนชัด ความสามารถทสถาปนาความสัมพันธกบตางรัฐได (อานาจ
                                                                ี่
                           ี่
                                                                                                     ํ
                                                                                       ั
                  อธิปไตย) และมรัฐบาล ซึ่งในการปกครองประเทศไมวาจะเปนระบอบใดก็ตาม เพื่อใหการปกครอง
                                ี
                                                                                                         ุ
                  เปนไปดวยความสงบเรียบรอย จะตองมีผูนําเปนผูบริหารปกครองประเทศ โดยทผูนําหรือประมข
                                                                                           ี่
                                                                                                         ั
                                                                                      ั
                                                                                            ั้
                                                                         ี
                  สูงสุดในการปกครองประเทศของนานาอารยประเทศนั้น จะมความแตกตางกนไป ทงนี้อาจขึ้นอยูกบ
                  ระบบการปกครอง ประเพณีนิยมและธรรมเนียมปฏิบัติที่สืบทอดกันมา หรือบางประเทศเกิดการเปลี่ยนแปลง
                                                                                            ุ
                                                                                     
                  จากรูปแบบการปกครองของประเทศนั้น ๆ เชน มีพระมหากษัตริยเปนประมขสูงสุด หรือม             ี
                                                                                       ี
                                                                                                         
                  ประธานาธิบดีเปนผูปกครองประเทศหรือรัฐ สําหรับประเทศไทยเรานั้นมพระมหากษัตริยเปน
                                                                                                      
                  ประมุขสูงสุดในการปกครองประเทศมาตั้งแตอดีตกาล
                                ความหมายของคําวา พระมหากษัตริย    
                                                                                               
                                พระมหากษัตริย คือ ประมุขหรือผูปกครองสูงสุดของประเทศ จะเหนไดวาประเทศไทย
                                                                                          ็
                                                                 ุ
                  ตั้งแตอดีตจนถึงปจจุบันมีพระมหากษัตริยเปนประมขปกครองประเทศ อนเกดจากแนวความคิด
                                                          
                                                                                     ั
                                                                                        ิ
                  ที่วา แตเดิมมนุษยยังมีนอยดํารงชีพแบบเรียบงายอยูกับธรรมชาติ และเมื่อมนุษยขยายพันธุมากขึ้น
                  ธรรมชาติตาง ๆ เริ่มหมดไป เกิดการแกงแยงกันทํามาหากิน เกิดปญหาสังคมขึ้น จึงตองหาทางแกไข
                                                                                                        
                  คนในสังคมจึงคิดวาตองพิจารณาคัดเลือกใหบุคคลที่เหมาะสมและมความเฉลียวฉลาด ไดรับการแตงตั้ง
                                                                             ี
                                                                                                    ุ
                                                                           ั
                                                                                  ี่
                                                    
                  ใหเปนผูพิจารณาตัดสิน เมื่อเกิดกรณีปญหาตาง ๆ ซึ่งตองปฏิบติหนาทดวยความบริสุทธิ์ยติธรรม
                  ทําใหคนในสังคมพอใจ และยินดี ประชาชนทั้งหลายจึงเปลงอุทานวา “ระชะ” หรือ “รัชชะ” หรือ
                                  
                                                                        
                                     ี่
                                                                                                         ํ
                  ราชา แปลวา ผูเปนทพอใจประชาชนยนดี ตอมาเลยเรียกวา พระราชา ดวยเหตุทวาการกระทา
                                                     ิ
                            
                                                                                             ี่
   20   21   22   23   24   25   26   27   28   29   30