Page 28 - หนังสือประวัติศาสตร์ชาติไทย ม.ปลาย
P. 28

18



                  บรมนาถบพิตร) หมวดที่ 2 พระมหากษัตริย มาตรา 8 กลาววา “องคพระมหากษัตริยทรงดํารงอย    ู
                                                          ิ
                  ในฐานะอันเปนที่เคารพสักการะ ผูใดจะละเมดมิได ผูใดจะกลาวหาหรือฟองรองพระมหากษัตริย  
                                         ั
                                                           ิ
                                                              ิ
                                                                                                        ั
                                                                                          ุ
                                                                                              ี่
                  ในทางใด ๆ มิได” ซึ่งบทบญญัติเรื่องนี้ไดรับอทธพลมาจากรัฐธรรมนูญของญี่ปน ทสอดคลองกบ
                                                       ี
                                               ั้
                                                                      ี่
                                                                                               ั
                  ความคิดความเชื่อของคนไทย ทงนี้ดวยมความประสงคทจะสําแดงพระราชสถานะอนสูงสุดของ
                                 
                                                                                               ู
                                                                                         
                                   
                                                                    ิ
                  พระมหากษัตริยใหประจักษ คติการปกครองประชาธปไตยพระมหากษัตริยทรงอยเหนือความ
                                                                                                      
                                                                                ี่
                                                                                 
                  รับผิดชอบทางการเมือง จนเปนเหตุใหเกิดหลักกฎหมายรัฐธรรมนูญทวา “พระมหากษัตริยไมทรง
                  กระทําผิด” (The King can do no wrong) ซึ่งหมายถึงผูใดจะฟองรองหรือกลาวหาพระมหากษัตริย 
                  ในทางใด ๆ ไมได ไมวาจะเปนในทางคดีแพงหรือคดีอาญาก็ตาม
                                2) พระราชสถานะและพระราชอํานาจของพระมหากษัตริยตามประเพณีการปกครอง
                  ตามหลักทั่วไป พระมหากษัตริยมีพระราชอํานาจนอกเหนือจากที่กลาวขางตน คือ แตเดิมพระมหากษัตริย 
                                                                              ื่
                  มีอํานาจสิทธิขาดในทุก ๆ เรื่อง และทุก ๆ กรณีแตผูเดียว ตอมาเมอมรัฐธรรมนูญเปนลายลักษณ
                                                                                 ี
                                                                                              
                                                                                 ั
                                                              
                  อกษรจํากดพระราชอานาจของพระมหากษัตริย ถากรณใดไมมบทบญญัติไวในรัฐธรรมนูญหรือ
                                      ํ
                                                                      ี
                           ั
                                                                            ี
                                                                           
                                                                                        
                   ั
                                                  ื่
                  กฎหมายกําหนดขอบเขตหรือเงอนไขของการใชพระราชอานาจของพระมหากษัตริยไว
                                                                             ํ
                                                                                                        
                  พระมหากษัตริยก็จะยังคงมีพระราชอํานาจเชนนั้นอยูโดยผลของธรรมเนียมปฏิบติ (Convention)
                                                                                          ั
                                                                       ํ
                  ซึ่งมคาบงคับเปนรัฐธรรมนูญเชนเดียวกัน เชน พระราชอานาจในภาวะวกฤต กลาวคือ เมอเกด
                          ั
                     ี
                                                                                     ิ
                                
                                                                                                     ื่
                                                                                                         ิ
                  วิกฤตรายแรงทางการเมืองถึงการเผชิญหนาระหวางฝายตาง ๆ ไมวาจะเปนเหตุการณ 14 ตุลาคม
                  2516 หรือ 17 - 20 พฤษภาคม 2535 ก็ดี จะเห็นวาพระมหากษัตริยทรงเขามาระงับเหตุรอนใหสงบ

                    ็
                             
                  เยนลงไดอยางอศจรรย เปนตน หรือกรณีพระราชอํานาจในการยบยงรางกฎหมาย กรณีของ
                                                                                ั
                                           
                                                                                   ั้
                                 ั
                                       
                                                                                                   
                  รัฐธรรมนูญแหงราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540  โดยหลักแลว รางกฎหมายไมวาจะราง
                                                                                                 
                                                                                                         ื่
                  รัฐธรรมนูญแกไขเพิ่มเติม รางพระราชบญญัติหรือรางพระราชบัญญติประกอบรัฐธรรมนูญ เมอ
                               
                                                                                 ั
                                                       ั
                                                                                         
                                                                                                         ั
                                                                         ู
                              ็
                  ไดรับความเหนชอบจากรัฐสภาแลว นายกรัฐมนตรีตองนําทลเกลาทูลกระหมอม ภายใน 20 วน
                  เพื่อพระมหากษัตริยทรงลงพระปรมาภิไธย และเมื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษาแลวบังคับใชเปน
                                                                                                         
                                                                                                  ั
                                                           
                                                                 ็
                                         ี่
                                                         
                  กฎหมายได และในกรณีทพระมหากษัตริยไมทรงเหนชอบดวยและพระราชทานคืนมายงรัฐสภา
                  หรือเมื่อพน 90 วันแลวมิไดพระราชทานคืนมา รัฐสภาจะตองปรึกษารางรัฐธรรมนูญแกไขเพิ่มเติม
                  ถารัฐสภามีมติยืนยันตามเดิมดวยคะแนนเสียงไมนอยกวา 2 ใน 3 ของจํานวนสมาชิกทงหมดเทาท   ี่
                                                                                                ั้
                  มีอยูของทั้งสองสภาแลว นายกรัฐมนตรีตองนํารางกฎหมายนั้นขึ้นทลเกลาถวายอกครั้งหนึ่ง เมอ
                                                                                            ี
                                                                                ู
                                                                                                         ื่
                  พระมหากษัตริยมิไดทรงลงพระปรมาภิไธยพระราชทานคืนมาภายใน 30 วัน นายกรัฐมนตรีตองนํา
                                
                                                         ั
                                                                             ั
                  รัฐธรรมนูญแกไขเพิ่มเติม หรือพระราชบญญัติ หรือพระราชบญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนั้น
                  ประกาศในราชกิจจานุเบกษาใชบังคับเปนกฎหมายได เสมือนหนึ่งวาพระมหากษัตริยไดทรงลงพระ
                  ปรมาภิไธยแลว (มาตรา 94) เปนตน
   23   24   25   26   27   28   29   30   31   32   33