Page 77 - หนังสือประวัติศาสตร์ชาติไทย ประถม
P. 77
68
เรื่องที่ 2 การอยู่กับน้ าสมัยโบราณ
สภาพทางภูมิศาสตร์และแหล่งที่ตั้งของสมัยสุโขทัยเป็นพื้นที่ลาดเอียงเพราะเป็น
ี่
พื้นทเชิงเขาทาให้ไม่สามารถกักเก็บน้ าได้ตามธรรมชาติ จึงจ าเป็นต้องพัฒนาแหล่งกักเก็บน้ า
ั
ไว้ใช้ในฤดูแล้งส าหรับการเกษตร อุปโภคบริโภค ผู้คนในสมัยสุโขทยจึงได้สร้างอ่างกักเก็บน้ าขึ้น
โดยการสร้างทานบเชื่อมระหว่างเขาเพื่อกักเก็บน้ า เรียกตามจารึกว่า “สรีดภงส์” (เขื่อน หรือ
ท านบ) รวมทั้ง “ตระพัง” (การขุดบ่อหรือสระ) ดังปรากฏในศิลาจารึกหลักท 1 “เบื้องหัวนอน
ี่
เมืองสุโขทย มีกุฎิวิหารปู่ครูอยู่ มีสรีดภงส์ ป่ามะพร้าว ป่าล่าง มีป่ามะม่วง ป่าขาม มีน้ าโคก
ั
มีพระขพุงผี เทพดาในเขาอันนั้น” หมายถึง เมืองสุโขทยทางทศใต้นั้นได้มีการสร้างทานบ
ั
ิ
่
ี่
ทเรียกว่า “สรีดภงส์” เพื่อบังคับน้ าจากคลองเสาหอให้ไหลไปทางทอดินเผาขนาดต่างๆ ผ่าน
เข้าไปในก าแพงเมือง ไหลลงไปในตระพังขนาดใหญ่กลางเมืองสุโขทัย
ั
การสร้างชลประทานของเมืองสุโขทย เป็นประโยชน์ทงทางด้านเกษตรกรรม
ั้
ั
และการคมนาคม เพราะชาวสุโขทยใช้น้ าทมาทางทอของพระยาร่วงส าหรับการเกษตรจาก
่
ี่
เหมืองฝาย โดยไม่ต้องอาศัยน้ าฝนแต่เพียงอย่างเดียว รวมถึงประโยชน์ทางด้านอุปโภคและ
บริโภคภายในเมืองสุโขทัย เพราะชาวสุโขทัยจะขุด “ตระพัง” (การขุดบ่อหรือสระ) จ านวนมาก
ั
ไว้กักเก็บน้ าไว้ใช้ในการด าเนินชีวิต ภูมิปัญญาทางด้านการบริหารจัดการน้ าทาให้เมืองสุโขทย
มีน้ าใช้ตลอดปี ผืนแผ่นดินมีความสมบูรณ์ มีผลผลิตที่สามารถเลี้ยงชาวเมืองได้

