Page 15 - ข้อขัดแย้ง ล่าสุด
P. 15

4. การไกล่เกลี่ยข้อพิพาท

                   ลักษณะของการระงับข้อพิพาทโดยการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท  อาจแยกได้เป็น  2  ลักษณะ  คือ  1)
          การไกล่เกลี่ยโดย เช่น ผู้ประนีประนอมประจําศาล เจ้าหน้าที่กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เจ้าหน้าที่ของ

          กรมบังคับคดี  นายอําเภอ  คณะกรรมการหมู่บ้าน  หรือเจ้าหน้าที่หน่วยงานของรัฐอื่น  ๆ  ที่กําหนดให้มี
          การนํากระบวนการไกล่เกลี่ยมาใช้บังคับ  2)  การไกล่เกลี่ยโดยภาคประซาชน  คือ  อาสาสมัครคุ้มครอง

          สิทธิและเสรีภาพ  ตามระเบียบกระทรวงยุติธรรมว่าด้วย  เครือข่ายและอาสาสมัครคุ้มครองสิทธิและ
          เสรีภาพ พ.ศ. 2548 ด้วยการจัดตั้งศูนย์ยุติธรรมชุมขน โดยมีสํานักงานยุติธรรมจังหวัดเป็นผู้ประสาน

          งานภายในพื้นที่แต่ละจังหวัด  แต่การดําเนินการดังกล่าวไม่มีกฎหมายรองรับผลของการไกล่เกลี่ยข้อ
          พิพาทไว้  ทําให้เมื่อมีการทําข้อตกลงระงับข้อพิพาทต้องกลับไปบังคับใช้ตามหลักกฎหมายสัญญา

          ประนีประนอมยอมความ  ซึ่งมีหลายกรณีคู่สัญญาไม่ปฏิบัติตาม  ส่งผลให้ต้องมีการฟ้องร้องเป็นคดีอีก
          โดยเริ่มกระบวนการฟ้องคดีใหม่  ส่งผลให้การไกล่เกลี่ยข้อพิพาทโดยภาคประชาชนขาดประสิทธิภาพ

          เพราะไม่สามารถนําข้อสัญญาตามที่ตกลงไกล่เกลี่ยข้อพิพาทดังกล่าวนั้นไปบังคับคดีได้  เนื่องจากมิใช่
          สัญญาประนีประนอมยอมความในขั้นการพิจารณาโดยศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความ

          แพ่ง มาตรา 138
                   ปัจจุบันมีการตราพระราชบัญญัติการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท พ.ศ.2562 ขึ้นเพื่อเป็นกฎหมายหลัก

          เฉพาะเกี่ยวกับการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทเพื่อให้นํามาใช้ในกระบวนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาททางแพ่งที่มีทุน
          ทรัพย์ไม่มากนักและข้อพิพาททางอาญาบางประเภท  เพื่อให้หน่วยงานของรัฐ  พนักงานสอบสวน  หรือ

          ศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชนใช้ในการยุติหรือระงับข้อพิพาทดังกล่าว  โดยคํานึงถึงความ
          ยินยอมของคู่กรณีเป็นสําคัญซึ่งจะทําให้เกิดความสมานฉันท์ขึ้นในสังคม  ทําให้ปริมาณคดีขึ้นสู่ศาลลด

          น้อยลง ลดปัญหาความขัดแย้ง ลดงบประมาณแผ่นดินและเสริมสร้างสังคมให้อยู่ร่วมกันอย่างปกติสุข


               วิธีการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชน  กฎหมายกําหนดให้เป็นหน้าที่ของกรมคุ้มครองสิทธิและ

               เสรีภาพ  ส่งเสริมสนับสนุนให้ประชาชนรวมตัวกันเป็นศูนย์ไกล่เกลี่ยภาคประชาชน  และอุดหนุนค่าใช้
               จ่ายในการดําเนินการ  ซึ่งคดีที่ศูนย์ไกล่เกลี่ยภาคประชาชน  จะดําเนินการไกล่เกลี่ยในข้อพิพาททั้ง

               ทางทางและทางอาญา ดังนี้
                      1)  ข้อพิพาททางแพ่งที่มีทุนทรัพย์ไม่เกิน  500,000  บาทหรือไม่เกินจํานวนที่กําหนดใน

               พระราชกฤษฎีกา และข้อพิพาททางแพ่งอื่นตามที่กําหนดในพระราชกฤษฎีกา แต่ถ้าเป็นการพิพาท
               กันเรื่องที่ดินต้องไม่เกี่ยวกับกรรมสิทธิ์ ถ้าเป็นเรื่องมรดกก็เป็นเรื่องการพิพาทระหว่างทายาท โดย

               จะไม่สามารถไกล่เกลี่ยเรื่องที่เกี่ยวกับสิทธิแห่งสภาพบุคคล  สิทธิในครอบครัว  หรือกรรมสิทธิ์ใน
               อสังหาริมทรัพย์

                      2)  ข้อพิพาททางอาญาที่ไกล่เกลี่ยได้  คือ  ความผิดอันยอมความได้หรือความผิดลหุโทษ
               ตามมาตรา390  ถึงมาตรา  395  และมาตรา  397  หรือความผิดลหุโทษอื่นที่ไม่กระทบต่อส่วนรวม

               ตามที่กําหนดในพระราชกฤษฎีกา  เมื่อมีการตกลงตามข้อไกล่เกลี่ยและกรมคุ้มครองสิทธิและ
               เสรีภาพออกหนังสือรับรองให้แล้ว  ข้อตกลงระงับข้อพิพาทนั้นใช้บังคับกันได้  ถ้าเป็นคดีอาญาสิทธิ

               นําคดีอาญามาฟ้องให้เป็นอันระงับ
   10   11   12   13   14   15   16   17   18   19   20