Page 11 - บรรทัดฐาน(ทฤษฎี)
P. 11
4. กฎหมาย
จากคำกล่าวที่ว่า ที่ไหนมีสังคมที่นั่นมีกฎหมาย (Ubi societas, Ibi jus) เมื่อ
มนุษย์เป็นสัตว์สังคม ไม่อาจอยู่ตามลำพังได้ กฎหมายจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง
สำหรับมนุษย์ในอันที่จะมีกฎเกณฑ์ ข้อบังคับ หรือแบบแผนความประพฤติของ
มนุษย์ให้อยู่ด้วยกันเป็นสังคมได้อย่างปกติสุข ดังนั้นกฎหมายจึงมีลักษณะเป็นกฎ
เกณฑ์แบบแผนความประพฤติของมนุษย์ในสังคมซึ่งมีกระบวนการบังคับที่เป็น
กิจจะลักษณะ (Organized Sanction) ทั้งกระบวนการในการตรากฎหมาย และ
กระบวนการในการบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งกฎหมายเป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นและ
กฎหมายเป็นเหตุผลที่มีอยู่แล้วในธรรมชาติ ซึ่งนับเป็นข้อโต้แย้งทางวิชาการสอง
แนวทาง (ปรีดี เกษมทรัพย์. 2526 : 270) คือ แนวหนึ่งคิดว่ากฎหมายคือกฎ
เกณฑ์ความประพฤติของมนุษย์ เกิดจากมนุษย์หรือพระผู้เป็นเจ้าจงใจกำหนดขึ้น
ส่วนอีกแนวหนึ่งเห็นว่า กฎหมาย คือสิ่งที่ก่อตัวขึ้นเองในสังคมมนุษย์ แล้วค่อยๆ
คลี่คลายวิวัฒนาการเรื่อยๆ โดยมิได้เริ่มต้นหรือเกิดขึ้นเพราะถูกสร้างขึ้นด้วยความ
จงใจของมนุษย์คนใดคนหนึ่ง ดังนั้นเพื่อให้สอดคล้องกับลักษณะที่แท้จริงของ
กฎหมายตามเนื้อความและตามแบบพิธี ดังนั้น กฎหมายจึงหมายถึงกฎเกณฑ์ที่เป็น
แบบแผน (Norm) ความประพฤติของมนุษย์ในสังคมซึ่งมีกระบวนการบังคับที่เป็น
กิจจะลักษณะ (Organized Sanction) (สมยศ เชื้อไทย. 2550 : 71) ส่วนกฎหมาย
ตามแบบพิธี หมายความถึงกฎหมายที่ออกมาโดยวิธีบัญญัติกฎหมาย โดยไม่ต้อง
คำนึงว่ากฎหมายนั้นจะเป็นกฎหมายตามเนื้อความหรือไม่ เช่น พระราชบัญญัติงบ
ประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ตัวอย่างของกฎหมายตามแบบ
พิธี ได้แก่ พระราชบัญญัติ พระราชกำหนด พระราชกฤษฎีกา กฎกระทรวง และข้อ
บัญญัติท้องถิ่น (สมยศ เชื้อไทย. 2552. 43)

