Page 183 - การจัดการเรียนรู้บูรณาการ ด้วยวิธีทางวิทยาศาสตร์ ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น
P. 183
การจัดการเรียนรู้บูรณาการด้วยวิธีการทางวิทยาศาสตร์ เล่ม 2
บทที่ 1
บทนำ
ความสำคัญของโครงงาน
ในปัจจุบันอุตสาหกรรมต่างๆ กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว สำหรับการย้อมผ้านั้นมีการปรับเปลี่ยนมาใช้
สีสังเคราะห์เพราะย้อมง่าย สะดวก สีเข้มสม่ำเสมอ และราคาถูก แต่สีย้อมสังเคราะห์นั้นมีผลเสียต่อสิ่งแวดล้อม
มีงานวิจัยรายงานว่าสีย้อมสังเคราะห์ก่อมะเร็งต่อสัตว์ทดลองเนื่องจากสารตกค้าง มนุษย์จึงหันกลับสู่ธรรมชาติ
ทั้งอาหาร ยา เครื่องนุ่งห่ม ที่มาจากธรรมชาติกำลังได้รับความนิยม ซึ่งมีแนวโน้มว่าความนิยมจะสูงขึ้นเรื่อยๆ
เพราะมีความปลอดภัยต่อสุขภาพและช่วยอนุรักษ์ทรัพยากร สีย้อมผ้าจากต้นครามนั้นเป็นทางเลือกหนึ่ง
ของคนไทย เพราะประเทศไทยเป็นแหล่งผลิตสีย้อมและแหล่งย้อมผ้าที่มีคุณภาพ ทำให้หาซื้อได้ง่ายและ
ราคาไม่แพงนัก และการซื้อผลิตภัณฑ์ของไทยด้วยกันยังช่วยเพิ่มความคล่องทางเศรษฐกิจ และทำให้
ประเทศไทยมีรายได้มากขึ้นจากการใช่จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติ
การสกัดสีธรรมชาติจากพืชเกือบทุกชนิดใช้วิธีการต้มเพื่อสกัดเม็ดสีออกมา และย้อมขณะร้อน
มีเพียงสีจากผลมะเกลือ และใบครามที่ใช้วิธีการย้อมเย็น ปัญหาใหญ่ของการย้อมผ้าด้วยสีธรรมชาติ คือ
สีตกและสีซีด เมื่อผ่านการซักล้างหลายครั้งหรือเมื่อใช้งานไปนานๆ เนื่องจากผลกระทบจากอากาศและ
แสงแดดการย้อมผ้าด้วยสีจากต้นครามนั้นมีมาประมาณ 6,000 ปี มีต้นกำเนิดมาจากอินเดีย และได้เผยแพร่
มาในแถบทวีปเอเชียมีการค้นพบหลักฐานเกี่ยวกับการย้อมครามในวัฒนธรรมโบราณในเมโสโปเตเมีย อียิปต์
กรีซ และในเอเชีย เช่น จีน ญี่ปุ่น เกาหลี ประเทศในหมู่เกาะสุมาตราเช่นอินโดนีเซีย ในแต่ละประเทศ
จะมีวิธีการย้อมที่ต่างกัน เช่น ในอินเดียและอินโดนีเซียใช้การย้อมซ้ำหลายๆครั้งเพื่อให้เข้ม ในประเทศไทย
มีผ้าย้อมครามมานานเท่าไรยังไม่มีหลักฐานแน่ชัดนัก แต่จากภาพถ่ายเก่าๆหรือแม้แต่ในชนบทในปัจจุบัน
ก็ยังปรากฏการแต่งกายด้วยผ้าครามให้เห็นอย่างต่อเนื่อง จนเมื่อประมาณ 50 ปีที่แล้ว มีการนำเข้าสีย้อม
การย้อมครามก็ลดน้อยลงจนเกือบสูญหาย ไปเช่นเดียวกับที่เกิดในทั่วโลก นับตั้งแต่อุบัติการณ์ของอุตสาหกรรม
สีสังเคราะห์ แต่เมื่อถึงช่วงที่ผู้คนโหยหาธรรมชาติอีกครั้งก็มีการฟื้นฟูการย้อมครามในสกลนคร เมื่อประมาณ
พ.ศ.2535 การย้อมผ้าด้วยต้นครามแพร่ หลายในภาคอีสานของประเทศไทย โดยการย้อมผ้าด้วยสี
จากต้นครามนั้นมีกรรมวิธีที่ค่อนข้างซับซ้อนและละเอียดอ่อน ตั้งแต่การเก็บใบคราม ต้องเก็บใบคราม
จากต้านครามอายุ 3-4 เดือนและต้องเก็บในตอนเช้าก่อนน้ำค้างแห้งเพื่อนำมาแช่น้ำทันที การเตรียมคราม
ด้วยการหมักใบครามจากน้ำขี้เถ้า และเติมส่วนของพืชที่เป็นแหล่งกรด เช่นมะขาม มะเฟือง ใบโมง ใบสมอ
หรือแม้กระทั่งกรดจากมดแดง มีปัจจัยหลายอย่างที่ส่งผลต่อคุณภาพของสีย้อมที่ได้ มีกระบวนการซับซ้อน
มากมายในกระบวนการผลิตนับตั้งแต่การคัดเลือกพันธุ์ต้นครามเพื่อนำไปปลูก ไปจนถึงการกระบวนการ
ย้อมคุณภาพของสีย้อมครามอาจแตกต่างกันมากเพราะตัวแปรที่ส่งผลมีความแตกต่างกันเพียงเล็กน้อย
ยกตัวอย่างเช่น แบคทีเรียที่ใช้ในการหมักครามนั้นเป็นตัวการที่ทำให้เกิด ปฏิกิริยารีดักชั่นที่ช่วยปรับ
สภาพเม็ดสีในครามให้อยู่ในสภาพที่สามารถย้อมได้ซึ่งแบคทีเรียชนิดนี้ต้องทำงานในสภาพที่เหมาะสม
คือต้องมีค่าpHประมาณ 10.5-11 ถ้าความเป็นกรด-เบสของน้ำครามสูงหรือต่ำกว่านี้ อาจทำให้แบคทีเรีย

