Page 35 - กิจกรรมบูรณาการ สเต็มศึกษา (STEM Education)
P. 35

ลักษณะส าคัญทางวิทยาศาสตร์

 ความรู้ในวิชาวิทยาศาสตร์  วิทยาศาสตร์ มีลักษณะส าคัญ สรุปได้ดังนี้

                    1. วิทยาศาสตร์ได้มาจากประสบการณ์ และทดสอบด้วยประสบการณ์
 วิทยาศาสตร์มีบทบาทส าคัญยิ่งในสังคมโลกปัจจุบันและอนาคต    ในที่นี้ความรู้ที่มาจากประสบการณ์ เรียกว่า “ความรู้เชิงประจักษ์” หรือความรู้
 เพราะวิทยาศาสตร์เกี่ยวข้องกับทุกคน ทั้งในชีวิตประจ าวัน หน้าที่การงานในทุก  เชิงประสบการณ์ (Experian Knowledge)  โดยอาศัยประสาทสัมผัสทั้งห้า
 อาชีพ ตลอดจนเทคโนโลยี เครื่องมือเครื่องใช้และผลผลิตต่าง ๆ ที่มนุษย์ได้ใช้

 เพื่อช่วยในการอ านวยความสะดวก ในชีวิตและการท างาน สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้  ร่วมกับทักษะการสังเกต
 ล้วนแต่เป็นผลของความรู้ทางวิทยาศาสตร์ ผสมผสานกับความคิดสร้างสรรค์  2. วิทยาศาสตร์ต้องเป็นสาธารณะความจริงที่นักวิทยาศาสตร์ค้นพบ
 และศาสตร์อื่น ๆ  จะต้องแสดงหรือทดลองให้ทุกคนเห็นได้เหมือนกันและความรู้ทางวิทยาศาสตร์

 วิทยาศาสตร์ช่วยให้มนุษย์ได้พัฒนาวิธีคิด ทั้งความคิดเป็นเหตุเป็นผล  ไม่ใช่ของส่วนตัวแต่เป็นสาธารณะคือผู้อื่นอาจรู้เห็นอย่างเดียวกันกับผู้ค้นพบได้
 คิดสร้างสรรค์ คิดวิเคราะห์ วิจารณ์ มีทักษะส าคัญในการค้นคว้าหาความรู้  มี  3. วิทยาศาสตร์มีลักษณะเป็นสากล นักวิทยาศาสตร์พยายามขยาย
 ความสามารถในการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ สามารถตัดสินใจโดยใช้ข้อมูลที่  ความรู้ให้เป็นสากลมากที่สุดเพราะความรู้ที่มีลักษณะเฉพาะเจาะจง มี

 หลากหลายและมีประจักษ์พยานที่ตรวจสอบได้ วิทยาศาสตร์เป็นวัฒนธรรมของ  ความหมายน้อย และขาดการยอมรับ
 โลกสมัยใหม่ซึ่งเป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ (Knowledge -  based  society) ดังนั้น
 ทุกคนจึงจ าเป็นต้องได้รับการพัฒนาให้รู้วิทยาศาสตร์ เพื่อที่จะมีความรู้ความ  4. วิทยาศาสตร์ช่วยในการคาดหมายอนาคต วิทยาศาสตร์ มีลักษณะ

 เข้าใจในธรรมชาติและเทคโนโลยีที่มนุษย์สร้างสรรค์ขึ้น สามารถน าความรู้ไปใช้  ความเป็นสากลใช้ได้โดยทั่วไป จึงสามารถคาดหมายสิ่งที่จะเกิดในอนาคตได้
 อย่างมีเหตุผล สร้างสรรค์ และมีคุณธรรม (กระทรวงศึกษาธิการ: 2551)  ทั้งนี้การคิดค้นกฎและทฤษฎีต่าง ๆ ทางวิทยาศาสตร์ เพื่อคาดหมายในอนาคต
 วิทยาศาสตร์ (Science)  มาจากรากศัพท์เดิมในภาษาลาตินว่า   5. วิทยาศาสตร์เป็นปรนัย เมื่อวิทยาศาสตร์ถูกยอมรับและพิสูจน์แล้ว

 Scientia ซึ่งมีความหมายตรงกับภาษาอังกฤษคือค าว่า Knowledge หรือ ค า  ว่าเป็นจริง ดังนั้น ไม่ว่าใครจะน าไปพิสูจน์อีกเมื่อใด ที่ใดก็ตาม ผลที่ออกมาย่อม
 ว่า “ความรู้” ในภาษาไทย แต่การที่จะนิยามความหมาย“วิทยาศาสตร์” ตาม  เหมือนเดิม ความรู้ทางวิทยาศาสตร์เปลี่ยนแปลงได้ เพราะวิทยาศาสตร์มี
 ความหมายที่แปลมาจากภาษาลาติน ดูเหมือนว่าจะมีความหมายที่สั้นและแคบ  ลักษณะไม่คงที่แน่นอนเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา เมื่อมีการค้นพบความรู้ใหม่

 จนเกินไป เพราะธรรมชาติหรือแก่นสารที่แท้จริงของวิทยาศาสตร์นั้นไม่ได้
 หมายถึงความรู้เนื้อหาวิทยาศาสตร์แต่เพียงอย่างเดียว แต่ยังหมายถึง  ทั้งนี้เป็นผลมาจากความก้าวหน้าทางด้านวิทยาการใหม่
 กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ได้แก่ วิธีการทางวิทยาศาสตร์ ทักษะทาง  ความรู้ทางวิทยาศาสตร์

 วิทยาศาสตร์ และเจตคติทางวิทยาศาสตร์ด้วย ซึ่งหมายความว่าในการเรียน  ความรู้ทางวิทยาศาสตร์เป็นผลิตผล (Product) ทางวิทยาศาสตร์จาก
 วิทยาศาสตร์นั้นผู้เรียนจะต้องได้ทั้งตัวความรู้วิทยาศาสตร์ และกระบวนการทาง  กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ (The Science Process) ซึ่งเป็นความรู้ที่ถือว่า
 วิทยาศาสตร์ไปพร้อม ๆ กัน



 สมุดบันทึกกิจกรรมบูรณาการสเต็มศึกษาส าหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2559  สมุดบันทึกกิจกรรมบูรณาการสเต็มศึกษาส าหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2559
 20                                                                         21
   30   31   32   33   34   35   36   37   38   39   40