Page 100 - สอนสนุก สร้างสุข สไตล์สาธิตปทุมวัน เล่ม 4
P. 100

     âçàÃÕ¹ÊÒ¸ÔµÁËÒÇÔ·ÂÒÅÑÂÈÃÕ¹¤ÃÔ¹·ÃÇÔâò »·ØÁÇѹ






          6. เสริมแรง คือ การใช้จิตวิทยาการชื่นชม ยกย่อง สรรเสริญ ให้กำลังใจ

          สำหรับคนที่ทำได้ ทำเป็น เป็นคนดี เช่น นักเรียนตอบถูก ก็ชื่นชมเขา
          นักเรียนทำความดี ก็ยกย่อง เป็นต้น


          ตองสามารถปกครองนักเรียนทั้งในและนอกเวลาสอนได

          	      ครูนอกจากใช้ “พระคุณ” ในการสอนแล้ว ที่ไม่ควรลืมและ

          ขาดไม่ได้คือ “พระเดช” ครูต้องใช้พระเดชควบคู่กับพระคุณในการ
          ทำหน้าที่สอน ขณะสอนต้องสามารถควบคุมบรรยากาศการเรียนการสอน
          หรือพฤติกรรมของนักเรียนขณะเรียนได้  ต้องมีบุคลิกที่นักเรียน

          ให้ความเกรงขาม แต่ไม่ใช่กลัว เช่นบุคลิกของครูฝ่ายปกครอง พอได้ยินคำว่า
          “ฝ่ายปกครอง” นักเรียนต้องเกรงขาม หรือยำเกรง ไม่กล้าแสดงกิริยา
          ที่ผิดระเบียบให้เห็น เป็นต้น ดังนั้น ครูต้องสามารถทำให้นักเรียนตั้งใจเรียน
          ในห้องได้อย่างดี


          ตองมีอำนาจในคำพูด (เสียงมีพลัง มีอำนาจ)


                  ครู ต้องใช้คำพูดที่สามารถสะกดนักเรียนให้หยุดฟังได้ มีพลัง
          ในประโยคคำพูดนั้น ๆ บางครั้งครู ต้องสวมบทบาทเสียงตัวร้าย เพื่อใช้
          ในการปกครองนักเรียน มิฉะนั้นนักเรียนอาจขาดระเบียบวินัยในการเรียน

          การสอน อาจเรียกได้ว่า “ครูต้องมีวาจาสิทธิ์”

          ตองใชน้ำเสียง จังหวะคำพูดไดดี มีเสียงเบา-ดัง สูง-ต่ำ


                 ในการสอนนั้น ครูต้องใช้น้ำเสียงที่ต่างระดับกัน มีสูง มีต่ำ มีเสียงดัง
          เสียงเบา มีเน้น ไม่เน้น เสียงดังกังวาล ชัดถ้อยชัดคำ เพื่อกระตุ้น
          ให้นักเรียนตั้งใจเรียน มิใช่ใช้เสียงโทนเดียว ไปเรื่อย ๆ เป็นเหมือนทำนอง
   95   96   97   98   99   100   101   102   103   104   105