Page 20 - เส้นทางความรู้สู่ความเป็นเลิศด้านการปรับวงดนตรีไทย
P. 20
์
ิ
ิ
ิ
ุ
วิทยาลัยดรยางคศลป มหาวิทยาลัยมหดล ดศ.บ. (ดนตร) / 13
ี
ึ
ี
้
ี
- ความพรอมเพรยงในการบรรเลงรวมวง หมายถงความพรอมเพรยงตั้งเเต่การตั้ง
้
ี
ึ
ิ
ี
ุ
ต้นของการเตรยมงาน การเตรยมตัวการฝกซ้อม จนกระทั่งส้นสดการบรรเลง จะต้องมวินัย
ี
่
ื
ี
้
มความสามัคค และให้ความร่วมมอร่วมใจกันอย่างมากและอย่างสม าเสมอ มความพรอม
ี
ี
ี
ั
ี
เพรยงในการฝกซ้อม มความพรอมรบผิดชอบต่อหน้าทของตนและส่วนรวม ปฏบัตหน้าท ี่
ิ
ึ
้
ิ
ี
่
ั
ี่
ทได้รบมอบหมาย
- มประสบการณด้านบรรเลงรวมวง ในการด าเนนการปรบวงนั้นสามารถ
ิ
ี
ั
์
ี่
ี
ั
ิ
ึ
ปรบเปลยนวิธการบรรเลงตามความรสกนกคด ค่านยม ตลอดจนพฤตกรรมต่าง ๆ ให้
ิ
ิ
ึ
ู
้
ุ
็
ั
เปนไปตามจดประสงค์ของผู้ปรบวง
็
ี
ื
่
ึ
ั
ื
- ให้ความร่วมมอในเรองของการฝกซ้อมและการปรบวงเปนอย่างด ส่งผลให้การ
ึ
ุ
ิ
ิ
ุ
่
ี
ด าเนนการต่าง ๆ สัมฤทธผลตามจดประสงค์ทก าหนดไว้ จงสามารถสรปได้ว่า
ิ
่
ี
่
ั
์
ี
กระบวนการวิเคราะหบรบททเกียวข้องกับการปรบวงดนตรไทยโดยขนบไทยข้างต้น จะ
ั
เหนได้ว่าบรบทของการปรบวงนั้น ประกอบด้วย 3 ส่วนส าคัญคอ ผู้ปรบวง ผู้บรรเลง และ
ั
ิ
ื
็
ี่
วิชาการทเกียวข้อง (วงดนตรและเพลง)
่
ี
2.7 กลวิธการเพิ่มประสทธภาพ
ิ
ิ
ี
ี
ิ
ค าว่า “กลวิธการเพิ่มประสทธภาพ” สามารถจ าแนกความหมายของค า ตาม
ิ
ุ
ี
ึ
พจนานกรมฉบับราชบัณฑตยสถาน พ.ศ. 2525 ได้ดังน้ “กลวิธ” หมายถง วิธพลกแพลง
ิ
ี
ี
ิ
ี
ิ
ู
้
่
ึ
โดยอาศัยความรความช านาญ “ประสทธภาพ” หมายถง ความสามารถทท าให้เกิดผลในการ
ิ
ึ
่
ึ
้
ี
ิ
งาน ฉะนั้น โดยความหมายรวมจงหมายถง “การใช้วิธการต่าง ๆ เพือเสรมสรางงานนั้น ๆ
ึ
ื
ให้เกิดผลเพิ่มมากข้นหรอสงข้น โดยอาศัยความรความช านาญ” กลวิธการเพิ่ม
ู
ึ
้
ู
ี
็
ี
ิ
ั
ิ
ประสทธภาพ ในการปรบวงดนตร สามารถแบ่งออกเปน 2 ลักษณะ ได้แก่
2.7.1 เชงหลักการ
ิ
ื่
ื
่
ึ
่
ี
ี
ิ
ิ
หมายถง กลวิธการเพิ่มประสทธภาพทว่าด้วยเรองหลักการ ยกตัวอย่างเช่น เมอได้
ั
ก าหนดวิชาการและด าเนนการใช้แล้ว ปรากฏว่าเกิดปญหาข้ ึนกับผู้บรรเลง จะต้อง
ิ
็
ึ
ึ
ี
ิ
ั
ท าการศกษาว่าปญหานั้นเกิดข้นมาอย่างไร และจะด าเนนการแก้ไขด้วยวิธใด เปนการแก้ไข
ี
ิ
ั
ิ
ประสทธภาพของผู้บรรเลงด้วยหลักการ กรณเช่น พบปญหาว่าผู้บรรเลงระนาดเอกนั้น ลง
้
ื
ี
ั
ี
ั
่
ึ
ื่
ไม้ตระนาดโดยททั้งสองมอลงไม่พรอมกัน เมอเกิดปญหาดังน้ข้น จะแก้ไขปญหาอย่างไร
ี
ั
การแก้ไขปญหาก็ต้องพิจารณาว่าหลักการทท าให้การตระนาดให้มอทั้ง 2 ข้างลงพร้อมกันก็
ี
ื
ี
่
้
ี
ี
ื
ึ
คอการ ไล่ระนาด โดยมลักษณะทเรยกว่า “ตฉาก” จงจะสามารถแก้ปญหามอไม่พรอมกัน
ั
ื
ี
ี
่
็
ได้ เปนต้น

