Page 118 - งานวิจัยพร้อมใช้

การฝ่อลีบของต่อมเบอร์ซ่าในไก่อายุ 28 วัน ประสิทธิภาพของการห่อหุ้มด้วยแอลจิเนต เจลาติน

จากการติดเชื้อไวรัส variant infectious bursal disease และไคโตซานต่อการรอดชีวิตของ Bacillus subtilis

ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของฟาร์มไก่เนื้อในประเทศญี่ปุ่น
The Efficiency of Microencapsulation with Alginate, Gelatin,
Bursa atrophy at 28 days old caused by variant infectious
bursal disease virushas a negative economic impact on broiler farms in Japan and Chitosan on the Survival of Bacillus subtilis

หน่วยงาน/คณะ : สัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย หน่วยงาน : คณะสัตวแพทยศาสตร์
หลักแนวคิดในการสร้างนวัตกรรม การประยุกต์ใช้
หลักแนวคิดในการสร้างนวัตกรรม
ี
Microencapsulation เป็นเทคโนโลยีท่ใช้เพื่อเพ่มศักยภาพ ประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมผลิตอาหารสัตว์ หรือ
ิ
โรคเบอร์ซ่าอักเสบติดต่อ (Infectious bursal disease) หรือโรคกัมโบโร (Gumboro) เป็นโรค
ื
ไวรัสติดต่อที่พบได้ในไก่ อายุ 3-6 สัปดาห์ โดยอวัยวะเป้าหมายที่ไวรัสก่อรอยโรคคือ เซลล์ของ ในการใช้จุลินทรีย์โพรไบโอติกในระบบทางเดินอาหาร โดย ผลิตภัณฑ์ผสมโพรไบโอติก เพ่อปกป้องโพรไบโอติก
�
ต่อมเบอร์ซ่าซ่งท�าหน้าที่สร้างภูมิคุ้มกันในไก่ ส่งผลกระทบให้เกิดภาวะบกพร่องทางภูมิคุ้มกัน อนุภาคโพรไบโอติกจะถูกเคลือบหรือติดอยู่ภายในวัสด ุ จากการถูกทาลายโดยปัจจัยต่าง ๆ เช่น อุณหภูมิ พีเอช
ึ
�
้
�
และติดเช้อแทรกซ้อนได้ง่าย เกษตรกรมักตระหนักรู้เมื่อไก่มีอัตราการตายที่สูง ซ่งถือเป็นช่วง แคปซูล ช่วยป้องกันการถูกทาลายโดยน�าย่อยในลาไส้ สภาวะการเก็บรักษา และกระบวนการแปรรูป นอกจากน ี ้
ึ
ื
้
ี
ั
�
�
ิ
�
ติดเช้อแทรกซ้อน การตรวจหาสาเหตุก่อนช่วงที่มีอัตราการตายสูงจึงเป็นส่งสาคัญในการ ของสัตว์ท่มีความเป็นกรดสูง อีกท้งจากเกลือนาดีที่ ยังสามารถนาไปประยุกต์ใช้ในการรักษาเสถียรภาพของยา
ื
ั
ิ
�
�
ื
ึ
จัดการโรค รวมถึงการทราบรายละเอียดของเช้อช่วยให้การวางแผนจัดการโรคท�าได้ง่ายข้น หล่งจากลาไส้เล็ก ช่วยในการส่งและการปลดปล่อยสารออกฤทธ์ในตาแหน่ง
ท่มีคุณสมบัติใน เป้าหมายได้อีกด้วย
ี
การทาลายเช้อ อุณหภูม ิ
�
ื
การประยุกต์ใช้ จุลินทรีย์
เพ่อปกป้อง พีเอช
ื
จากการศึกษานี้พบว่าใน 2 ช่วงเวลาของการศึกษา ช่วงเวลาที่เซลล์ของต่อมเบอร์ซ่าเกิดการฝ่อลีบ โพรไบโอติกจาก
�
ึ
�
อย่างมีนัยสาคัญเกิดข้นในช่วงอายุ 28 วันของไก่เนื้อพันธุ์ ROSS 308 โดยมีค่าสัดส่วนของน�าหนัก การถูกทาลาย
้
้
ื
ต่อมเบอร์ซ่าต่อน�าหนักตัว ต�ากว่า 0.1 และพบว่าเช้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ในกลุ่ม Antigenic variant โดยปัจจัยต่าง ๆ สภาวะการเก็บรักษา
่
ื
้
IBDV ตรวจพบในไก่อายุ 25 และ 21ตามลาดับ สอดคลองกับการตรวจพบแอนติเจนของเชอไวรสใน
ั
�
้
วัน โดยต่อมเบอร์ซ่าด้วยวิธี immunohistochemistry และช่วงเวลาที่มีอัตราการตายสูงสุดคือ ช่วง กระบวนการแปรรูป
ิ
อายุ 30 วัน โดยรอยโรคสันนิษฐานว่าเกิดจากการติดเช้อแทรกซ้อนของ E. coli ลักษณะเด่นของส่งประดิษฐ์และคุณค่าในงานสร้างสรรค์
ื
�
ี
เม็ดเจลมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 2.31 0.2 มม. ผิวเรียบ เป็นมันวาว เมื่อนาไปทดสอบในสภาวะท่มีกรดสูง (พีเอช 4 และ 2) พบว่าการ
�
ลักษณะเด่นของสิ่งประดิษฐ์และ หน่วยงานที่ใช้ประโยชน์ ห่อหุ้มด้วยแอลจีเนต เจลาติน และไคโตซาน (AGC) สามารถช่วยให้แบคทีเรียมีอัตราการรอดชีวิตเท่ากับ 90.90% และ 51.02% ตามลาดับ
คุณค่าในงานสร้างสรรค์
สามารถปรับแผนการท�าวัคซีนของ
ึ
ฟาร์มให้สอดคล้องกับปัญหาที่เกิดข้น 1
ได้อย่างมีประสิทธิภาพและทันท่วงที สัตวแพทย์ A AC AG AGC
ี
หน่วยงานท่ใช้ประโยชน์
สามารถเฝ้าระวังการติดเช้อได้โดยใช้วิธีการ
ื
ตรวจวัดค่าอัตราส่วนของน�้าหนักต่อมเบอร์ 2 หน่วยงานภาครัฐ ได้แก่ คณะ มหาวิทยาลัย หน่วยงานภาคเอกชน ไดแก่ อตสาหกรรม
้
ุ
้
ึ
ซ่าต่อน�าหนักตัวไก่ซ่งเป็นค่าตรวจวัดที่ใช้ใน เกษตรกร ศูนย์วิจัย ตลอดจนหน่วยงานต่าง ๆ การผลิตอาหารสัตว์ และผลิตภัณฑ์ที ่
ฟาร์มทั่วไป เป็นตัวแปรที่ใช้ในการเฝ้าระวังการ ผู้เลี้ยงไก่ ที่ท�างานวิจัยเกี่ยวข้องกับจุลินทรีย์ เกี่ยวข้องกับจุลินทรีย์โพรไบโอติก
ติดเช้อในฟาร์มได้ โพรไบโอติก เป็นต้น อุตสากรรมการผลิตยา เป็นต้น
ื
100
สพ.ญ.มธุรส สุวรรณเรืองศรี ผศ.ดร.อุมาพร ขิมมากทอง
คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย