Page 281 - E-book การประชุมวิชาการครั้งที่ 36
P. 281
ไม่ว่าการผ่าตัดชนิดนี้จะทำในสตรีกลุ่มใด หากเกิดขึ้นก่อนการเข้าสู่ภาวะหมดประจำเดือนตามธรรมชาต ิ
้
จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางภาวะการเจริญพันธุ์ในหลายดาน เพิ่มความเสี่ยงของโรคเรื้อรังของหลายระบบ และ
ิ
เพิ่มอัตราการเสียชีวิตที่มากกว่าสตรีที่เข้าสู่วัยหมดประจำเดือนตามธรรมชาต เราเรียกภาวะนี้ว่าภาวะหมด
(15)
ประจำเดือนจากการผ่าตัด (surgical menopause) การเปลี่ยนแปลงและความเสี่ยงต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้น ได้แก่
ิ
• กลุ่มอาการของการขาดฮอร์โมน (vasomotor symptoms) และอัตราการเสียชีวตโดยรวม
Stuursma A และคณะ ได้ทำการศึกษาแบบ cross-sectional study ที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ศึกษาใน
(16)
สตรีที่มี BRCA1/2 mutation และได้รับการผ่าตัด RRSO ก่อนวัยหมดประจำเดือนจำนวน 199 คน
ผลการศึกษาพบว่าอาสาสมัครร้อยละ 69 มีความรุนแรงของอาการของการขาดฮอร์โมนอยู่ในระดบปานกลาง
ั
และรุนแรง และส่วนใหญ่เป็นผู้ที่ได้รับการผ่าตัดภายใน 1 ปีแรกก่อนเข้าร่วมการศึกษา อย่างไรก็ตามในกลุ่ม
อาสาสมัครที่ได้รับการผ่าตัดมานานมากกว่า 10 ปี ก็ยังพบว่ามีความรุนแรงของอาการระดับปานกลางและ
รุนแรงถึงร้อยละ 66 นอกจากนี้ยังพบว่าผู้ที่ได้รับการผ่าตัดมานานแล้วจะมีความรุนแรงของอาการ
psychological symptoms ลดลง ซึ่งตรงกันข้ามกับกลุ่มอาการ urogenital symptoms ที่พบว่ายิ่ง
ั
่
ระยะเวลาหลังผ่าตัดนานขึ้นจะมีความรุนแรงของอาการมากขึ้น และยังมีการศึกษาพบว่าสตรีที่ได้รับการผาตด
มดลูกร่วมกับตัดรังไข่ออกทั้ง 2 ข้างจะมีการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ ภาวะวิตกกังวลและภาวะซึมเศร้าหลัง
(17)
ผ่าตัดมากกว่าสตรีที่ผ่าตัดมดลูกอย่างเดียว
(18)
สำหรับอัตราการเสียชีวิตโดยรวม จากผลการศึกษา Nurses’ Health Study ซึ่งเป็นการศึกษาแบบ
prospective cohort study มีอาสาสมัครที่ได้รับการผ่าตัดมดลูกทั้งร่วมและไม่ร่วมกับการตัดท่อนำไข่และ
รังไข่ออกทั้ง 2 ข้างจำนวน 30,117 คน พบว่ากลุ่มที่ได้รับการตัดท่อนำไข่และรังไข่ออกร่วมด้วยจะมี
all-cause mortality มากกว่าอีกกลุ่มอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (HR=1.13, 95% confidence interval [CI]:
1.06–1.21) อย่างไรก็ตามพบว่าอัตราการเสียชีวิตที่เกิดจากมะเร็งรังไข่และมะเร็งเต้านมเกิดขึ้นน้อยกว่า
นอกจากนี้พบว่าอาสาสมัครที่ได้รับการผ่าตัดนำท่อนำไข่และรังไข่ออกก่อนอายุ 50 ปี และไม่ได้รับการรักษา
ด้วยฮอร์โมนมี all-cause mortality สูงกว่ากลุ่มอื่นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (HR=1.41, 95% CI: 1.04-
(19)
1.92) ในปีค.ศ. 2014 Gierach GL และคณะ เผยแพร่ผลการศึกษาที่พบว่าสตรีที่ผ่าตัดนำรังไข่ออกก่อนอายุ
35 ปี จะเพิ่มความเสี่ยงของการเสียชีวิตอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (HR 35 years =1.20, 95% CI: 1.08-1.84) และ
่
ุ
อัตราการเสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นนี้จะลดลงเรื่อย ๆ เมื่อได้รับการผ่าตัดในช่วงอายที่มากขึ้นจนถึงช่วงอายุตั้งแต 50 ปี
เป็นต้นไปที่อัตราการเสียชีวิตจะไม่เพิ่มขึ้น
• โรคระบบหัวใจและหลอดเลือด
ในสตรีวัยหมดประจำเดือนจะมีการลดลงของเอสโตรเจนซึ่งทำให้เพิ่มการสะสมของ central fat เพิ่ม
ี่
ั
ี่
ความเสี่ยงของ metabolic syndrome และทำให้ระดับไขมันในกระแสเลือดเปลยนแปลงไปในลกษณะทเพิ่ม
ความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด รวมทั้งอัตราการเสียชีวิตจากโรคหัวใจและหลอดเลือดเพิ่มสูงขึ้น
Incidental salpingectomy and oophorectomy in reproductive aspect 265

