Page 22 - วิชาพะเยาเมืองศักดิ์สิทธิ์แก้ไขล่สุด
P. 22

ใบความรู้

                                                         เรื่อง พ่อขุนงำเมอง
                                                                       ื
                                       รายวิชา “ พะเยาเมืองศักดิ์สิทธิ์ ” ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น



                     ประวัติพ่อขุนงำเมือง

                      เมื่อสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ เมืองพะเยาอยู่ภายใต้การปกครองของจังหวัดเชียงราย ในฐานะ อำเภอพะเยา

               และเมื่อวันที่ ๒๘ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๒๐ อำเภอพะเยาได้ยกฐานะขึ้นเป็น "จังหวัดพะเยา" นับเป็นจังหวัดที่ ๗๒

               ของประเทศไทย พะเยา (คำเมือง: พ(ร)ะญาว) เป็นจังหวัดในภาคเหนือตอนบน บริเวณที่ตั้งของตัวเมืองพะเยาใน
                                                                                              ุ
               ปัจจุบันอยู่ติดกับกว๊านพะเยา เดิมเป็นที่ตั้งของเมือง ภูกามยาว หรือ พะยาว ที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อพทธศตวรรษที่ ๑๖
               โดยมีผู้ปกครองคือ "พญางำเมือง" ภายหลังมีการเปลี่ยนแปลงอำนาจ และตกอยู่ภายใต้อทธิพลของอาณาจักร
                                                                                           ิ
               ล้านนา


                     พญางำเมือง เป็นพระราชโอรสของพญามิ่งเมือง ประสูติในเวลารุ่งเช้า วันพฤหัสบดี ขึ้น 1 ค่ำ เดือน 6 ปี
               จอ พ.ศ. 1781 (จ.ศ. 600)   เมื่อพระชนมายุได้ 14 พรรษา ได้ไปศึกษาเล่าเรียนพระเวทกบเทพฤาษีตนหนึ่งที่ดอย
                                                                                          ั
                                      [2]
               ด้วน เรียนอยู่ 2 ปี ครั้นพระชนมายุได้ 16 พรรษา ได้ไปศึกษาศิลปศาสตร์ในสำนักสุกทันตฤาษี กรุงละโว้ (ลพบุรี)

                                                       ่
               เป็นศิษย์ร่วมสำนักเดียวกับพญามังราย และพอขุนรามคำแหง พระร่วงเจ้าแห่งกรุงสุโขทัย จึงสนิทสนมร่วมผูก
               ไมตรี เป็นพระสหายตั้งแต่นั้นมา
                                          [2]

                     ปี พ.ศ. 1801 (จ.ศ. 620) พญามิ่งเมืองสิ้นพระชนม์ จึงเสด็จขึ้นครองราชสมบัติแทน พญางำเมืองเป็นผู้มี
               สติปัญญาเฉลียวฉลาด มีอิทธิฤทธิ์มาก เมื่อพระองค์เสด็จ ไปทางไหน "แดดก็บ่ฮ้อน ฝน ก็บ่ฮำ จักให้บดก็บด จักให้

               แดด ก็แดด" จึงได้รับ พระนามว่า "งำเมือง" นอกจากนั้น พระองค์มีพระทัยหนักแน่นในศิลธรรม มีพระราชศรัทธา

                             ุ
               เลื่อมใสในพระพทธศาสนา ไม่ชอบทำสงคราม ทรงดำเนินพระราโชบาย การปกครองบ้านเมือง ด้วยความเที่ยง
                                                                          ื่
               ธรรม พยายาม ผูกไมตรีจิตต่อเจ้าประเทศราชที่มีอำนาจเหนือคน เพอหลีกเลี่ยงภัยสงครามแม้กระนั้น ก็ยังถูก
               พญามังรายยกกองทัพมาตี เมื่อปี พ.ศ. 1805 แต่ในที่สุดพญางำเมืองก็ยอมยกเมืองปลายแดน คือ เมืองพาน เมือง
               เชียงเคี่ยน เมืองเทิง เมืองเชียงของ ให้แก่พญามังราย ด้วยหวังผูกไมตรีต่อกันและคิดว่าภายภาคหน้าจะขอคืน


                                                         ิ
                     พญางำเมือง ทรงเป็นกษัตริย์ ที่ทรงทศพธราชธรรมและมีเมตตาเป็นที่ประจักษ์ ดังเช่น เหตุการณ์ ใน
               ประวัติศาสตร์กล่าวถึง พอขุนรามคำแหง พระสหาย ได้เสด็จไปมาหาสู่กัน เสมอมิได้ขาด จนเส้นทางที่เสด็จผ่าน
                                    ่
                                                                                            ั้
               เป็นร่องลึกเรียกว่า แม่ร่องช้าง ในปัจจุบัน พระร่วงเจ้าเสด็จมาเมืองพะเยา ทรงเห็นพระนางอวเชียงแสน พระราช
                                                                                         ั
                                         ั
                                                            ั
               เทวีของพญางำเมือง มีรูปโฉมอนงามยิ่ง ก็บังเกิดปฏิพทธิ์รักใคร่ และพระนางก็มีจิตปฏิพทธ์เช่นกัน จึงได้ลักลอบ
               ปลอมแปลงพระองค์คล้ายกับพญางำเมือง เข้าสู่ห้องบรรทมพระนางอวเชียงแสน พญางำเมืองทราบเหตุ และสั่งให้
                                                                        ั้
                                                                                                       ิ
               อำมาตย์ ไพร่พล ทหารตามจับพระร่วงเจ้า นำไปขังได้และมีราชสาส์นเชิญพญามังราย ผู้เป็นสหายมาพจารณา
               เหตุการณ์ พญามังรายทรงไกล่เกลี่ย ให้ทั้งสองพระองค์เป็นมิตรไมตรีต่อกันดังเดิม โดยขอให้พระร่วงเจ้าขอขมา
   17   18   19   20   21   22   23   24   25   26   27