Page 43 - การวิเคราะห์อภิปรัชญาที่ปรากฎในสารัตถะแห่งคัมภีร์มิลินทปัญหา
P. 43

๒๙


                       เราจะรู้สึกถึงลักษณะเหล่านั้นได้อย่างไร และมีวิธีเป็นอยู่ต่าง ๆกันหลายวิธี ซึ่งในปรัชญาแขนงนี้
                       ปรัชญาเมธีต่างก็พากันให้ค าตอบต่าง ๆ กันเช่น นักปรัชญาบางคนรู้ว่าโลกแห่งข้อเท็จจริง ซึ่งประ

                       สารทสัมผัสของเรารู้สึกได้นั้นเป็นสิ่งไม่จริงในความหมายบางประการ ท่านเหล่นี้ยืนยันว่า โลกเป็น

                       ประจักษ์พยานซึ่งแสดงให้เห็นความแท้จริงซึ่งเป็นรากฐานของโลก ถ้าเราถือว่าโลกเป็นสิ่งจริงแท้

                       กล่าว คือถ้าโลกเป็นอยู่โดยสิทธิของมันเอง ในไม่ช้าเราจะพบตัวเองยุ่งอยู่กับการขัดแย้งกัน นัก

                       ปรัชญาหลายท่านมุ่งจะส ารวจลักษณะของโลกที่เราคุ้นเคยนี้ เช่น กาล อวกาศ การเปลี่ยนแปลงวัตถุ

                       หรือกฏแห่งเหตุผลและนักปรัชญาได้ค้นหาเพื่อเปิดเผยข้อขัดแย้งที่เกิด

                                 จากการส ารวจ นักปรัชญาเหล่านั้นได้ชี้แจงว่า เมื่อจิตมนุษย์พยายามที่จะเข้าใจลักษณะ

                       ต่าง ๆเหล่านี้ของโลก จิตมนุษย์จะบรรลุถึงภาวะที่เรียกว่า กฎที่ค้านกัน (Antinomy)และกฎที่ค้านกัน
                       (Antinomy)นี้ คือข้อวินิจฉัย หรือการลงความเห็นคู่กัน๒ ประการ ความเห็นแต่ละอย่างดูเหมือน

                       ความจะเป็นความจริงอย่างหนีไม่พ้น แตะถ้าหากความเห็นบางประการหนึ่งจริง ความเห็นอีกประการ
                       หนึ่งซึ่งคู่กันจะจริงไม่ได้ การตรงกันข้ามระหว่างหลักที่เชื่อว่า การกระท าใด ๆ การเปลี่ยนแปลงทาง

                       สังคมอน ๆ เป็นผลเนื่องจากเหตุที่ก าหนดให้เป็นไปและหลักที่เชื่อข้อวินิจฉัยขัดแย้งซึ่งคู่กันและ
                             ื่
                       ตรงกันข้ามกับหลักดังกล่าว หลักยึดเชื่อข้อแรกเรียกว่า นิยัตินิยม (Determinism) และหลักยึดเชื่อ
                                                                          ๑๑
                       ข้อหลังเรียกว่า อนิยัตินิยม (Free  will หรือ Indeterminism)

                                 ๒.๒.๒ ความหมายของอภิปรัชญา

                                                                                ิ
                                 พจนานุกรมศัพท์ปรัชญา องกฤษ-ไทย ฉบับราชบัณฑตยสถาน (พ.ศ. ๒๕๔๘)ได้ให้
                                                         ั
                       ความหมายอภิปรัชญาไว้ว่า อภิปรัชญาเป็นปรัชญาสาขาที่ว่าด้วยสิ่งเป็นจริง เช่น พระเป็นเจ้า (God)
                       โลก (world) วิญญาณ (soul) สาระ (substance) เจตจ านงเสรี (free will)
                                                                                     ๑๒

                                 จ านงค์  ทองประเสริฐ, ได้ให้ความหมายอภิปรัชญาไว้ในหนังสือปรัชญาตะวันตกสมัย
                       โบราณ สรุปความได้ว่า อภิปรัชญา (Mataphysics) ซึ่งเป็นแขนงของปรัชญาที่รวมศาสตร์ว่าด้วย

                                               ั
                       ความมีอยู่และศาสตร์ว่าเหตุอนเป็นฐานและกระบวนการในสิ่งต่าง ๆในจักรวาล ในความหมายกว้าง
                       ๆ หมายถึงหลักปรัชญาที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นและในความหมายแคบหมายถึงศาสตร์ว่าด้วยความมีอยู่เท่านั้น
                       อภิปรัชญาจะตั้งค าถามว่า การที่กล่าวถึงสิ่งหนึ่งว่ามีอยู่นั้นหมายความว่าอย่างไร มีลักษณะเฉพาะซึ่ง





                                 ๑๑ จ านงค์  ทองประเสริฐ, ปรชญาตะวันตกสมัยโบราณ, พิมพ์ครั้งที่ ๗, (กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์
                                                      ั
                       มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย,๒๕๓๓), หน้า ๒๙ – ๓๐.
                                                               ั
                                 ๑๒ ราชบัณฑิตยสถาน,พจนานุกรมศัพท์ปรชญา อังกฤษ-ไทย ฉบับราชบัณฑิตยสถาน, พิมพ์ครั้งที่ ๔,
                                                        ์
                       (กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์ศักดิโสภาการพิมพ, ๒๕๔๘), หน้า ๖๓.
   38   39   40   41   42   43   44   45   46   47   48