Page 31 - ฉบับที่ 100
P. 31

บทนํา



                    ในปจจุบันอาจจะกลาวไดวา Operational Art และ Operational Design
                                                       ั
           เปนพ้นฐานท่มีความสําคัญตอการวางแผน ตัดสินใจ ตามข้นตอนกระบวนการวางแผน
               ื
                     ี
                                         ั
                                                               ี
                         ิ
                                           
                                              
                                          ิ
           ทางทหาร และการวเคราะหหาหนทางปฏิบตฝายขาศึกตามกระบวนการเตรยมสภาพแวดลอม
                                                                 ี
                                                                        ื
                                    ู
                               ึ
           ทางยุทธการดานขาวกรอง ซ่งการท่ผบังคับบัญชา หรือฝายเสนาธิการสามารถท่จะเขาใจพ้นฐาน
                                   ี
           ท่สําคัญของ Operational Art และ Operational Design จะชวยทําใหการวางแผน
            ี
           ในการใชกําลัง และการวิเคราะหหาหนทางปฏิบัติฝายขาศึกตามกระบวนการตาง ๆ เปนไป
   พื้นฐาน OPERATION ART  อยางมีหลักตรรกะ ถูกตอง และเชื่อมโยงระหวางวัตถุประสงค และปจจัยตาง ๆ ดวยความ
           สําคัญของ Operational Art และ Operational Design ตามที่ไดกลาวมา ในบทความนี้
                                 ื
                       ี
           จึงเปนบทความท่ชวยอธิบายพ้นฐานของ Operational Art และ Operational Design
 และ OPERATION DESIGN  และความสําคัญของพ้นฐานดังกลาวตอการวางแผนตามกระบวนการวางแผนทางทหาร
                           ื
                                      
                           ี
                                                                       ื
           และกระบวนการเตรยมสภาพแวดลอมทางยุทธการดานขาวกรองของกองทพเรอไทย
                                                                    ั
                  ี
                                          ี
           ใหแกผท่กําลังศึกษา  หรือผท่สนใจท่มีพ้นฐานกระบวนการวางแผนทางทหาร
                                  ู
                                   ี
                                            ื
                 ู
                                                                     ื
           และกระบวนการเตรียมสภาพแวดลอมทางยุทธการดานขาวกรองในระดับเบ้องตนได 
 และความสําคัญตอการวางแผนตามกระบวนการ  เขาใจ และสามารถนําไปประยุกตใชในการวางแผนไดอยางมีประสิทธิภาพ อยางไรก็ตาม
           เพ่อใหการอธิบายเปนไปตามประเด็นท่ชัดเจนและเขาใจงาย ผเขียนจึงขอใชแนวทางการเขียน
                                                      ู
             ื
                                      ี
           ในลักษณะการต้งคําถามในประเด็นท่สําคัญ โดยเร่มต้งแตพ้นฐานของ Operational Art
                       ั
                                      ี
                                                      ื
                                                  ั
                                                ิ
 วางแผนทางทหารของกองทัพเรือไทย    และ Operational Design ไปจนถึงความสําคัญตอการวางแผนตามกระบวนการวางแผน
                                                       
                                             ี
                                                                   
                                                             ุ
           ทางทหารของกองทพเรอไทยและกระบวนการเตรยมสภาพแวดลอมทางยทธการดานขาวกรอง
                         ั
                           ื
                                                                      
           ตามลําดับ โดยมีคําถามและรายละเอียดที่สําคัญดังตอไปนี้
                  ๑. Operational Art มีจุดเริ่มตนและความเปนมาอยางไร?
                                                      
                                                                        ั
                                             ื
                                                                      ู
                                                               ิ
                                                                  
                  แนวคดในเรอง Operational Art หรอภาษาไทยใชคําวา “ยทธศลป” ไดถกพฒนา
                                                         
                                                            ุ
                      ิ
                          ่
                                                                     
                           ื
           แนวคดขนหลงสงครามโลกครงท ๑ โดยนกทฤษฎและนกการทหารในประเทศสหภาพ
                                                     ั
                     ั
                                 ้
                                 ั
                                   ี
                                   ่
                                                 ี
                  ึ
               ิ
                                           ั
                  ้
                                             ่
                   ี
                  ่
                                                                   
                  ี
              ี
                                                                     ิ
                                                    ้
                                                    ั
                    ่
           โซเวยต ทมชอวา Mikhail Tukhachevsky ซึงในขณะนน สหภาพโซเวียตไดเกดสงคราม
                    ื
           ที่สําคัญ ไดแก สงครามกลางเมืองรัสเซีย (Russian Civil War) ในป ค.ศ.๑๘๑๗ - ๑๘๒๒
           และสงครามโปแลนด - โซเวียต (Polish - Soviet War)  ในป ค.ศ.๑๙๑๙ - ๑๙๒๑
           โดยการทําสงครามในชวงเวลาดังกลาว Tukhachevsky ไมเห็นดวยกับแนวคิดการเอาชนะ
              ึ
                              ี
           ขาศกโดยการทําการรบท่ช้ขาดและทําลายลางขาศึกในคร้งเดียว แตเห็นดวยกับแนวคิด
            
                               ี
                                                      ั
           ในการทําการรบใหบรรลุวัตถุประสงคทางยุทธศาสตรโดยผานการรวบรวมความสําเร็จ
           ของการปฏิบัติการหลาย ๆ ปฏิบัติการเขาดวยกัน ซ่งแนวคิดดังกลาวเปนแนวคิดท่จะเปน
                                                                       ี
                                                 ึ
                                                                ¹ÒÇÔ¡Ò¸Ô»˜µÂÊÒÃ
                                                                ¤Åѧ»˜ÞÞÒ ¾Ñ²¹Ò¼ÙŒ¹íÒ   29
   26   27   28   29   30   31   32   33   34   35   36