Page 88 - ฉบับที่ 100
P. 88

ในการปฏิบัติการทางทหารและนําไปส “การวางแผนบนพ้นฐานของวัตถุประสงค (Objective-
                                      ู
                                                   ื
           Based Planning)” หรือใน ทร.สหรัฐฯ จะเรียกวา “การวางแผนบนพ้นฐานของภารกิจ
                                                               ื
                                       ั
                                                               ี
           (Mission-Based Planning)” โดยข้นตอนแรก ๆ ของแนวความคิดน้มีความคลายคลึง
                          ื
           กับการวางแผนบนพ้นฐานของเปาหมาย (Threat-Based Planning) คือ การวิเคราะห 
                                       ิ
                                         ี
                                          ุ
              ิ
           หาส่งท่มง (Objective) และกําหนดส่งท่มงทางวัตถุ (Physical Objective) ท่มีลักษณะ
                                                                     ี
                 ุ
                ี
                                                                          ื
           เปนรูปธรรม หลังจากน้นการพัฒนาแนวความคิดยุทธศิลป (Operational Arts) ในเร่อง
                            ั
                                                                ิ
           จุดศูนยดุล (COG) แลววิเคราะหหาปจจัยวิกฤต (Critical Factors) จะเร่มเขามาสนับสนุน
                                                               ี
                                                                 ุ
                                                             ิ
           กระบวนการกําหนดหนทางการปฏิบัติอยางมีนัยสําคัญตอการบรรลุส่งท่มง (Objective)
             ื
           เพ่อใหไดมาซ่งความลอแหลมวิกฤติ (Critical Vulnerabilities) หรือจุดออนของจุดศูนยดุล
                     ึ
               ั
                                           ี
                           ั
                                             ี
           ของท้งสองฝาย จากน้นหนทางการปฏิบัติท่ดีท่สุดสําหรับฝายเราคือ การกระทําตอความ
                                 ี
           ออนแอของฝายตรงขามแทนท่จะเปน COG โดยตรง และปกปองความออนแอของฝายเรา
           การปฏิบัติในลักษณะ OBO น้จึงลดความสูญเสียจากการตองเผชิญกับปจจัยท่เขมแข็ง
                                                                      ี
                                  ี
           ของขาศึกโดยตรง และเปนการเปล่ยนความเขาใจท่ยึดถือกันมาแตเดิมวา ปจจัยการแพ 
                                     ี
                                                 ี
           หรือชนะในการทําสงครามยอมมาจากจํานวนและขีดความสามารถของกําลังรบเปนหลัก
                                                                   ึ
              ู
           ไปสการใหความสําคัญตอปจจัยทางยุทธการ (Operational Factors) มากย่งข้น การชดเชย
                                                                 ิ
                                            ี
                                          ื
           ความเสียเปรียบจากกําลังรบดวยปจจัยพ้นท่และเวลา เปนส่งท่กลายเปนเร่องปกติของ
                                                          ี
                                                                   ื
                                                        ิ
                                              ึ
           นักวางแผน การใหความสําคัญตอปจจัยเวลาซ่งเปนปจจัยท่สําคัญท่สุดและไมสามารถ
                                                        ี
                                                              ี
                                                          ึ
           นํากลับคืนมาไดหากสูญเสียไปแลวเร่มถูกใหความสําคัญมากข้น สําหรับการวางแผน
                                       ิ
           บนพ้นฐานของภารกิจ (Mission-Based Planning) นั้น ทร. ไดมีการแปลและเรียบเรียง
               ื
           จาก NAVY WARFARE PUBLICATION NAVY PLANNING (NWP 5-01) ฉบับป ค.ศ.๑๙๙๖
           และเปนเอกสารอางอิงไวใชเชนกัน โดยมีการจัดทําเปน อทร.๘๓๐๗ เลมแรก ในป
                                                            ี
                                  ิ
           พ.ศ.๒๕๔๑ และปรับปรุงแกไขเพ่มเติมในป พ.ศ.๒๕๔๖ (อางถึง ภาพท่ ๕ เอกสารการวางแผน
           ของ ทร. ตั้งแตอดีตจนถึงปจจุบัน)
                  เมื่อสิ้นสุดสงครามเย็นและสหรัฐฯ กลายมาเปนมหาอํานาจเพียงหนึ่งเดียวในชวง
                ั
           เวลาน้น ไดเกิดความขัดแยงข้นในตะวันออกกลางจากการท่กองทัพอิรักของประธานาธิบดี
                                 ึ
                                                      ี
           ซัดดัม ฮุสเซน นํากําลังเขายึดครองประเทศคูเวตเมื่อวันที่ ๒ สิงหาคม ค.ศ.๑๙๙๐ ซึ่งนับเปน
           การทาทายระเบียบโลกภายใตการนําของสหรัฐฯ โดยภายหลังจากการคว่าบาตรทางเศรษฐกิจ
                                                             ํ
                                          ั
           กับอิรัก และการเจรจาทางการทูตหลายคร้งไมประสบความสําเร็จ สหประชาชาติจึงมีมต ิ
                                ื
           ใหใชปฏิบัติการทางทหารเพ่อผลักดันกองทัพอิรักออกจากประเทศคูเวต และการปฏิบัต ิ
           ¹ÒÇÔ¡Ò¸Ô»˜µÂÊÒÃ
      86 ¤Åѧ»˜ÞÞÒ ¾Ñ²¹Ò¼ÙŒ¹íÒ
   83   84   85   86   87   88   89   90   91   92   93