Page 16 - ประวัติศาสตร์วิทยาศาสตร์
P. 16

History of Science                                       15



                                                                       ่
                                                 ่
                     ประโยชน์ เช่น กำรสังเกตฤดูกำลเพือท�ำกำรเพำะปลูกหรือเก็บเกียว กำรเดิน
                     เรือ นำฬิกำแดด ฯลฯ ควำมรู้บำงด้ำนช่วยอ�ำนวยควำมสะดวกแต่เป็นควำมรู้
                      ่
                                 ่
                                                                    ่
                     ทีไม่ต้องอำศัยสิงประดิษฐ์ใดๆ เข้ำช่วยเหลือ หรือต่อให้เป็นสิงประดิษฐ์อย่ำง
                                                                  ่
                     นำฬิกำแดดก็ไม่ได้มีกลไกในเชิงจักรกลอันซับซ้อน  เมือมองให้กว้ำงขึน
                                                                               ้
                     พัฒนำกำรของวิทยำศำสตร์ควรหมำยรวมถึงควำมส�ำเร็จทีมนุษย์ท�ำควำมเข้ำใจ
                                                                ่
                       ่
                                                                   ่
                     เรืองรำวรอบตัวอีกจ�ำนวนมำก  ไม่ใช่เฉพำะควำมส�ำเร็จทีมีเทคโนโลยีเป็น
                     ประจักษ์พยำนเท่ำนั้น
                           ด้วยบรรทัดฐำนในปัจจบัน  วิทยำศำสตร์ช่วยไขข้อข้องใจให้มนษย์ใน
                                                                           ุ
                                             ุ
                     เรืองเกียวกับโลกธรรมชำติ (natural world) อย่ำงเช่นควำมเข้ำใจเรืองโลก
                          ่
                       ่
                                                                           ่
                     หมุนรอบตัวเองท�ำให้เกิดกลำงวันและกลำงคืน โลกโคจรรอบดวงอำทิตย์หนึง ่
                     รอบใช้เวลำหนึงปีหรือ 365 วัน มนุษย์หำยใจเพือรับก๊ำซออกซิเจนและปล่อย
                                                          ่
                                ่
                     ก๊ำซคำร์บอนไดออกไซด์  พืชเป็นสิงมีชีวิตทีอำศัยกำรสังเครำะห์ด้วยแสงและ
                                                       ่
                                                ่
                                                      ้
                     คำยก๊ำซออกซิเจนให้มนุษย์ แต่ควำมรู้เหล่ำนีก็มีมิติทำงประวัติศำสตร์ เพรำะจำก
                                             ่
                     ทียกตัวอย่ำงมำ สังคมมนุษย์เพิงตระหนักถึงข้อเท็จจริงบำงข้อในระยะเวลำไม่
                      ่
                     นำนนักเมือเทียบกับช่วงยำวนำนหลำยพันปีของอำรยธรรม เนืองจำกกำรศึกษำ
                                                                    ่
                             ่
                                                                           ่
                     โลกธรรมชำติต้องอำศัยกำรรับรู้ด้วยประสำทสัมผัส และตลอดระยะทีผ่ำนมำ
                                                      ่
                                                                          ่
                                          ้
                     ประสำทสัมผัสของมนุษย์นันแทบจะไม่เปลียนแปลงเลย หรือหำกเปลียนก็คง
                              ่
                     มีในระดับทีน้อยมำก  ไม่ว่ำมนุษย์สมัยโบรำณหรือมนุษย์ปัจจุบันหำกยืนมอง
                     แผ่นดินทีทอดยำวออกไปคงมองเห็นเหมือนๆ กันว่ำตนยืนอยู่บนพืนรำบทีแผ่
                             ่
                                                                              ่
                                                                        ้
                                                                              ่
                     กว้ำงออกไปเป็นผืนดินอันกว้ำงใหญ่ มำกกว่ำจะบอกตนเองว่ำก�ำลังยืนอยู่ทีจุด
                     หนึงบนเปลือกโลกทีโค้งมน  มนษย์ทังสองยคยังมองเห็นวัตถตกส่พืนโลก
                                                                      ุ
                                                        ุ
                                                                          ู
                                               ุ
                                     ่
                        ่
                                                                            ้
                                                   ้
                     มำกกว่ำจะคิดไปว่ำวัตถุก�ำลังวิงเข้ำสู่ศูนย์กลำงของโลก จึงเห็นได้ว่ำเส้นแบ่งที ่
                                            ่
                                        ู
                                ุ
                         ้
                     เกิดขึนเมือมนษย์ก้ำวส่โลกสมัยใหม่คือควำมส�ำเร็จในกำรสร้ำงค�ำอธิบำย
                             ่
                                                                            ่
                                                                         ้
                                        ่
                     ปรำกฏกำรณ์ธรรมชำติทีขัดแย้งกับสำยตำหรือประสำทสัมผัสมำกขึนเรือยๆ
                                              ้
                                                                          ้
                     แต่มนุษย์ก็ยอมรับในค�ำอธิบำยนัน แม้จะเป็นค�ำอธิบำยทีก้ำวข้ำมขีดขันควำม
                                                                 ่
                     รับรู้ของตัวเองก็ตำม อีกทังมนุษย์เรำยังน�ำไปสอนในระบบโรงเรียนจนเป็นเรื่อง
                                         ้
                                                        ่
                                                                  ่
                                                                    ่
                                      ่
                     ปกติ สรุปง่ำยๆ ว่ำ เมือประสำทสัมผัสไม่ได้เปลียนแปลงไป สิงทีสร้ำงข้อแตกต่ำง
                     ระหว่ำงยุคสมัยคือวิธีหำค�ำอธิบำยและท�ำควำมเข้ำใจปรำกฏกำรณ์ธรรมชำติ
   11   12   13   14   15   16   17   18   19   20   21